ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ผลสรุปตัวเลขผลประกอบการรายไตรมาสของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ จะแสดงให้เห็นภาพรวมความสามารถในการให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ สะท้อนภาพว่า การลงทุนด้าน AI นั้นจะยั่งยืนในระยะยาวหรือไม่
Over the next two weeks, the quarterly results of Big Tech giants will offer a glimpse on the bankability of artificial intelligence and whether the major investments AI requires are sustainable for the long haul.
ปัญญาประดิษฐ์ จะกลายเป็นรายได้ก้อนใหญ่ของบริษัท Big Tech
ในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ผลสรุปตัวเลขผลประกอบการรายไตรมาสของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ จะแสดงให้เห็นภาพรวมความสามารถในการให้ผลตอบแทนต่อการลงทุนด้านปัญญาประดิษฐ์ สะท้อนภาพว่า การลงทุนด้าน AI นั้นจะยั่งยืนในระยะยาวหรือไม่
นักวิเคราะห์จาก Wedbush Securities หนึ่งในผู้เชื่อมั่นในศักยภาพของ AI รายใหญ่ที่สุดใน Wall Street คาดว่า “การเติบโตและรายได้จะเร่งตัวขึ้นพร้อมกับการปฏิวัติ AI และคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น”
โดยทั่วไปแล้ว ตลาดเห็นด้วยกับโอกาสในการลงทุนด้าน AI นักวิเคราะห์คาดการณ์การเติบโตเป็นเลขสองหลักสำหรับ Microsoft และ Google รุ่นใหญ่ ตรงกันข้ามกับ Apple ซึ่งมาช้ากว่าในตลาด AI โดยคาดว่าจะเติบโตเพียง 3 เปอร์เซ็นต์
ผู้ผลิต iPhone ซึ่งเปิดเผยผลการดำเนินงานในวันที่ 1 สิงหาคม ได้เปิดตัวระบบ Apple Intelligence ใหม่เมื่อเดือนที่แล้ว และวางแผนที่จะค่อยๆ เปิดตัวฟีเจอร์ AI ในเดือนหน้า ซึ่งรองรับการใช้งานเฉพาะในรุ่นล่าสุดเท่านั้น
Angelo Zino นักวิเคราะห์ CFRA เชื่อว่า เราจะยังไม่รู้สึกถึงผลกระทบของคุณสมบัติ AI ใหม่เหล่านี้จนกว่า iPhone 16 จะเปิดตัวในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเครื่องแรกที่มาพร้อมพลัง AI ใหม่ในตัว
แต่เขาคาดว่ากำไรที่จะเกิดขึ้นของ Apple จะแสดงให้เห็นผ่านยอดขายในจีน ซึ่งเป็นจุดที่ตกต่ำลง ตั้งแต่ปีที่แล้ว
“การคาดการณ์ของ Apple ในไตรมาสปัจจุบัน จะมีความสำคัญ” ในการประเมินโมเมนตัมของบริษัท Zino กล่าว
แต่ “ถ้ามีอะไรที่เราอาจกังวลมากกว่าเล็กน้อย เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทรายอื่นๆ ก็คงเป็น Meta” เขากล่าว
เขาชี้ให้เห็นว่าบริษัทของ Mark Zuckerberg ได้เพิ่มการคาดการณ์การลงทุนเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้ทุ่มเงินเพิ่มอีกสองสามพันล้านดอลลาร์สำหรับชิป เซิร์ฟเวอร์ และดาต้าเซ็นเตอร์ ที่จำเป็นในการพัฒนา generative AI
CFRA คาดว่าการเติบโตของ Meta จะชะลอตัวลงจนถึงสิ้นปี เมื่อรวมกับการใช้จ่ายด้าน AI ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นั่นน่าจะสร้างแรงกดดันให้กับการสร้างรายได้ของบริษัท
Microsoft เป็นหนึ่งในบริษัท ที่มีโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้จาก generative AI โดยได้เริ่มต้นดำเนินการเร็วที่สุด ในการนำ generative AI ไปใช้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัท และทุ่มเงิน 13 พันล้านดอลลาร์ ให้กับ OpenAI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT
Jeremy Goldman จาก Emarketer กล่าวว่าการชนะเดิมพันครั้งใหญ่ในด้าน AI นั้น “มีความสำคัญ” แต่ผู้ลงทุนในตลาด AI ยังจำเป็นต้องมีความอดทนในระดับหนึ่ง ก่อนที่จะได้รับผลตอบแทนอย่างที่มุ่งหวังเอาไว้
ความตื่นตัว และพัฒนาการอย่างก้าวกระโดดของ AI ช่วยให้ธุรกิจคอมพิวเตอร์คลาวด์ของ Microsoft เติบโตในระดับเลขสองหลัก ซึ่งเป็นสิ่งที่นักวิเคราะห์กล่าวว่า อาจรักษาระดับการเติบโตไว้ได้ยาก
สำหรับ Amazon นั้น “นักลงทุนจะต้องการเห็นว่า การฟื้นตัวของการเติบโตในช่วงไตรมาสแรก จะไม่ใช่แค่การเติบโตครั้งเดียว” ที่ AWS ซึ่งเป็นธุรกิจคลาวด์ชั้นนำระดับโลกของบริษัท Matt Britzman จาก Hargreaves Lansdown กล่าว
ภาพรวมของ AI อาจจะยังไม่ชัดเจน สำหรับ Alphabet บริษัทแม่ของ Google เนื่องจากกระทบต่อธุรกิจการค้นหาทางออนไลน์ search business online
ความสงสัยเกี่ยวกับภาพรวมของ AI ที่ Google เปิดตัวในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม “เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลอย่างแน่นอน Evelyn Mitchell-Wolf นักวิเคราะห์ของ Emarketer กล่าว