Qualcomm bullish on automotive, AI on smartphones

CEO Cristiano Amon คาดว่า AI ที่ built in บนอุปกรณ์จะสร้างความแตกต่าง ในการแข่งขันทุกช่องทางอุตสาหกรรมยานยนต์และเทคโนโลยี

CEO Cristiano Amon expects on-device AI to “drive competitive differentiation” in multiple verticals

Qualcomm มั่นใจ AI ในอุตสาหกรรมยานยนต์ และ AI บนสมาร์ทโฟน

Qualcomm มีรายได้ในไตรมาสที่สี่ติดต่อกันเป็นประวัติการณ์ในธุรกิจยานยนต์ และผู้บริหารระดับสูง รวมถึง Cristiano Amon ซีอีโอ ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นกับโอกาสของบริษัทชิปที่ปัญญาประดิษฐ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง generative AI  นำมาให้ เนื่องจากการใช้ AI แพร่หลาย

บริษัทมีรายได้เกือบ 9.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันในปี 2023 เป็น 2.1 พันล้านดอลลาร์ รายได้ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์พกพาของ Qualcomm (กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท) เติบโต 12% จากไตรมาสที่สองของปี 2023 รายได้จาก IoT ลดลง 8% และรายได้ที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์เพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบเป็นรายปี

Cristiano Amon ประธานและซีอีโอของ Qualcomm กล่าวในการประชุมรายไตรมาสกับนักวิเคราะห์ว่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ Qualcomm กำลังเห็น “สัญญาณของการเปลี่ยนแปลงในรายได้” … ในไตรมาสนี้ เราไม่ได้เปิดตัวแค่ 10 รุ่นใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีของเราเท่านั้น แต่เรายังเปิดตัวดีไซน์ใหม่ 10 แบบด้วย ซึ่งยังคงเพิ่มเข้ามาในแผนงานต่อไป” เขากล่าวอธิบาย “เรารู้สึกตื่นเต้นมากกับเรื่องนี้ เราจะยังคงเห็นรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวพร้อมกับเทคโนโลยีของเราจากแผนงานต่อไป รายได้จะเติบโตขึ้น”

เขายังกล่าวอีกว่ากรณีการใช้งาน generative AI เข้ามาในยานยนต์ เช่น การใช้โมเดล LLM ควบคุมระบบเสียงในรถยนต์ “เรากำลังเริ่มเห็น ตัวอย่างการใช้งานที่น่าสนใจมากมาย ที่กำลังได้รับการพัฒนา” Amon กล่าว พร้อมเสริมว่า Qualcomm จะสามารถพัฒนาระบบการอัปเกรดเนื้อหาใน digital cockpits โดยใช้  AI ได้

Qualcomm ยังคาดการณ์การเติบโตเพิ่มเติมในการใช้ AI บนสมาร์ทโฟนและพีซี “เรายินดีกับการเติบโตและแนวโน้มของการใช้งาน AI บนสมาร์ทโฟน การฟีเจอร์ AI เพิ่มเติมขึ้น อย่างมากมาย นับเป็นจุดเริ่มต้นของสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไป ซึ่งเราเชื่อว่าจะมี AI เป็นศูนย์กลาง โดยมี AI บนอุปกรณ์ที่แพร่หลายและทำงานข้ามแอปพลิเคชันบนคลาวด์” Amon กล่าว และเสริมว่า “Qualcomm อยู่ในตำแหน่งที่ดีมากที่จะช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ในอุตสาหกรรมในปีต่อๆ ไป”

เขากล่าวว่า ฟีเจอร์  AI กำลังค่อยๆ เข้ามามีบทบาทสำคัญ Amon กล่าวว่าปัจจุบันมีฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่หลายสิบรายการ เมื่อมีฟีเจอร์ AI ถึง 100 รายการ เราจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง นั่นคือสมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์  AI จะกลายเป็นสมาร์ทโฟน AI ซึ่งอาจสร้างข้อดีที่น่าสนใจได้หากเรามีวงจรการอัปเกรดที่ขับเคลื่อนโดย AI กระบวนการนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่กรณีการใช้งานกำลังน่าสนใจมากขึ้น

โดยรวมแล้ว เขากล่าวต่อว่า AI จะเป็นส่วนสำคัญมากของอินเทอร์เฟซระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ และนี่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของผู้ใช้บนแอปต่างๆ มากมาย  ต่อมาเขาได้กล่าวเสริมว่า “ในที่สุด โมเดลจำนวนมากจะมีฟังก์ชันการทำงานหลายอย่างในแอปต่างๆ: Amon ได้เปรียบเทียบ พัฒนาการของ AI กับพัฒนาการของสมาร์ทโฟน: “ในตอนแรกมีแอปประมาณ 10 แอป จากนั้นก็กลายเป็น 100 แอปและกลายเป็น 1,000 แอป… กลายเป็นหลายแสนแอป จากนั้นก็ชัดเจนมากว่าเกิดอะไรขึ้น “ผมคิดว่าเรามองไปในทางเดียวกันเล็กน้อย” เขากล่าวสรุป “เราอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่เราชอบที่จำนวนกรณีการใช้งานเพิ่มขึ้น”

เขายังกล่าวอีกว่า Qualcomm คาดหวังว่า AI บนอุปกรณ์จะขับเคลื่อนความแตกต่างทางการแข่งขัน สำหรับบริษัทในบริบทอุตสาหกรรม เครือข่าย และ XR ควบคู่ไปกับโทรศัพท์มือถือ พีซี และยานยนต์ ด้วยเหตุนี้ Amon จึงกล่าวว่า Qualcomm กำลัง “ออกแบบแผนงานอุตสาหกรรมของเราใหม่ทั้งหมด” และจะเปิดเผยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“เรามุ่งเน้นเป็นพิเศษที่การเติบโตและการกระจายความเสี่ยง และเป็นเรื่องของการเดิมพันหลายๆ อย่าง ไม่ใช่แค่การเดิมพันครั้งเดียว” เขากล่าวเสริม

ผู้บริหารของ Qualcomm สังเกตว่า สัญญาขายผลิตภัณฑ์ ส่งออกไปยังบริษัท Huawei ซึ่งควรจะมีการส่งขายผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องจนถึงช่วงปลายปีนี้ กลับถูกทางรัฐเพิกถอนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ในไตรมาสนี้และไตรมาสหน้า

view original *