พอร์ตฮูรอน รัฐมิชิแกน (ซีบีเอส ดีทรอยต์) — นิตยสารฟอร์บส์ทำการสำรวจเจ้าของร้านค้าปลีกเมื่อไม่นานนี้ และพบว่าเกือบสี่ในห้ารายสูญเสียรายได้ระหว่าง 500 ถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อเดือนเนื่องจากการลักขโมยในร้านค้า
PORT HURON, Mich. (CBS DETROIT) — Forbes recently surveyed retail store owners and found that nearly four out of five lose between $500 and $2,500 a month due to shoplifting.
ร้านค้าปลีก ใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อตรวจจับการลักขโมยแบบเรียลไทม์
พอร์ตฮูรอน รัฐมิชิแกน (ซีบีเอส ดีทรอยต์) — นิตยสารฟอร์บส์ทำการสำรวจเจ้าของร้านค้าปลีกเมื่อไม่นานนี้ และพบว่าเกือบสี่ในห้ารายสูญเสียรายได้ระหว่าง 500 ถึง 2,500 ดอลลาร์ต่อเดือนเนื่องจากการลักขโมยในร้านค้า
เจ้าของร้านค้าปลีกบางรายหันมาใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อตรวจจับการลักขโมยในร้านค้าแบบเรียลไทม์
“Veesion คือปัญญาประดิษฐ์ที่เชื่อมต่อกับกล้องที่มีอยู่เพื่อตรวจจับท่าทางที่มีแนวโน้มจะเป็นการลักขโมย เช่น ผู้คนใส่ของลงในเสื้อแจ็คเก็ต กางเกง กระเป๋าเป้ หรือกระเป๋า เป็นต้น” Benoit Koenig ผู้ก่อตั้งร่วมของ Veesion กล่าว
Veesion ถูกใช้งานในร้านค้า 4,000 แห่งทั่วโลก 500 แห่ง ในสหรัฐอเมริกา และมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อัลกอริทึมของ Veesion วิเคราะห์ภาพจากกล้องหลายตัวพร้อมกัน โดยมองหาสัญญาณที่ละเอียดอ่อน ในลักษณะที่สายตาของมนุษย์ไม่สามารถตามทันได้
“องค์ประกอบแรกคือ human detection ตรวจจับบุคคล โดยใช้สี่เหลี่ยมสีแดงหรือสีเขียว วงให้ผู้ดูแลร้านมองเห็นได้ รอบๆ ตัวบุคคลแต่ละคน” Koenig กล่าว ” องค์ประกอบที่สองเรียกว่า pause estimation หยุดภาพชั่วขณะ เพื่อประเมินตำแหน่งของส่วนต่างๆ ของร่างกาย องค์ประกอบที่สามเรียกว่า object recognition การจดจำวัตถุเพื่อตรวจจับกระเป๋าเป้หรือกระเป๋าแทนถุงช้อปปิ้งหรือรถเข็นช้อปปิ้ง องค์ประกอบทั้งหมดเหล่านี้รวมกันจะช่วยให้คุณทราบความน่าจะเป็นของท่าทางใดๆ ในเวลาใดก็ได้”
เนื่องจากเทคโนโลยีนี้วิเคราะห์เฉพาะการเคลื่อนไหวของร่างกายเท่านั้น Koenig จึงกล่าวว่า Veesion มีประสิทธิภาพในการหลีกเลี่ยงอคติในการตรวจจับผู้ลักขโมยของมากกว่ามนุษย์
“อัลกอริทึมไม่สนใจว่าผู้คนมีหน้าตาเป็นอย่างไร แต่จะสนใจท่าทางมากกว่า มันจะดูการเคลื่อนไหวของร่างกายและจะจับท่าทางเพื่อวางสิ่งของลงในแจ็คเก็ต ในกางเกง ในกระเป๋าเป้ หรือในกระเป๋าเงิน” เขากล่าว
Koenig กล่าวว่า หากมีคนพยายามจะขโมยสินค้าโดยไม่จ่ายเงิน “การกระทำดังกล่าวจะส่งสัญญาณเตือนวิดีโอสั้นๆ ไปยังโทรศัพท์มือถือของเจ้าของร้านแบบเรียลไทม์ ทำให้พวกเขาถามลูกค้าได้ว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ ต้องการตะกร้าหรือไม่ เพื่อให้ลูกค้ารู้ว่ามีคนกำลังจับตามองอยู่ ซึ่งน่าจะช่วยยับยั้งความพยายามดังกล่าวได้ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริง”