กำลังการผลิตของโปรเซสเซอร์ที่สูง ช่วยให้สตาร์ทอัพจีนพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้สะดวกขึ้น แม้จะมีข้อจำกัดที่ทางสหรัฐอเมริกาพยายามกีดกัน
Supply of processors helps Chinese start-ups advance artificial intelligence technology despite Washington’s restrictions
ต้นทุนค่าใช้จ่ายชิป AI ของ Nvidia ในจีน ถูกกว่าในสหรัฐฯ
ต้นทุนค่าใช้จ่าย ค่าเช่าบริการคลาวด์ที่ใช้ชิป AI ขั้นสูงของ Nvidia ในจีนนั้นต่ำกว่าในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสัญญาณว่า นักพัฒนาด้าน AI ของจีน สามารถเข้าถึงและใช้งานโปรเซสเซอร์ AI ขั้นสูงได้อย่างง่ายดาย แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีข้อจำกัดด้านการส่งออกก็ตาม
มีแหล่งข่าวรายงานว่า ผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดเล็ก 4 ราย ในจีน เรียกเก็บเงินจากกลุ่มเทคโนโลยีในท้องถิ่นประมาณ 6 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง สำหรับการใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีโปรเซสเซอร์ Nvidia A100 จำนวน 8 ตัว ส่วนผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดเล็กในสหรัฐฯ เรียกเก็บเงินประมาณ 10 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง สำหรับ base configuration เหมือนกัน
ราคาที่ต่ำตามคำบอกเล่าของผู้คนในอุตสาหกรรม AI และคลาวด์เป็นข้อบ่งชี้ถึงอุปทานชิป Nvidia ที่ล้นหลามในจีน และการหลีกเลี่ยงมาตรการของสหรัฐฯ ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย
A100 และ H100 ซึ่งหาได้ง่ายเช่นกัน ถือเป็นตัวเร่งความเร็ว AI ที่ทรงพลังที่สุดของ Nvidia และใช้ในการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนแอปพลิเคชัน AI บริษัทจากซิลิคอนวัลเลย์ถูกห้ามไม่ให้จัดส่ง A100 ไปยังจีนตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 และไม่เคยได้รับอนุญาตให้ขาย H100 ในประเทศ
ตัวแทนจำหน่ายชิปและสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีกล่าวว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จัดหาได้ค่อนข้างง่าย มีชิป A100 และ H100 โฆษณาขายอย่างเปิดเผยบนโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของจีน เช่น Xiaohongshu และ Taobao ของ Alibaba รวมถึงในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีราคาสูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับราคาในต่างประเทศ
ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ของจีน เช่น Alibaba และ ByteDance ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย คิดราคาเซิร์ฟเวอร์ Nvidia A100 ที่คล้ายกัน สูงกว่าผู้ให้บริการรายย่อยในท้องถิ่นเป็นสองถึงสี่เท่า
เปรียบเทียบแล้ว ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนทั้งสองราย คิดราคาแพ็คเกจในอัตราเทียบได้กับ Amazon Web Services ซึ่งคิดราคา 15 ถึง 32 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง
“ผู้เล่นรายใหญ่ต้องคิดเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ดังนั้นจึงเสียเปรียบ พวกเขาไม่อยากใช้ชิปที่ลักลอบนำเข้า” ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพชาวจีนกล่าว ขณะที่ผู้ขายรายย่อย คิดเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบน้อยกว่า
เขาประเมินว่ามีโปรเซสเซอร์ Nvidia H100 มากกว่า 100,000 ตัว ในประเทศ โดยพิจารณาจากความพร้อมใช้งานอย่างแพร่หลายในตลาด ชิป Nvidia แต่ละตัวมีขนาดเท่าหนังสือหนึ่งเล่ม ทำให้ผู้ลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดนสามารถขนได้ค่อนข้างง่าย ซึ่งบั่นทอนความพยายามของสหรัฐอเมริกาที่จะจำกัดความก้าวหน้าด้าน AI ของจีน
“เราซื้อ H100 จากบริษัทที่ลักลอบนำเข้าจากญี่ปุ่น” ผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพในสาขาระบบอัตโนมัติซึ่งจ่ายเงินไปประมาณ 500,000 หยวน (70,000 ดอลลาร์) สำหรับการ์ดสองใบในปีนี้กล่าว “พวกเขาลบหมายเลขซีเรียลออก”
Nvidia กล่าวว่า ขายโปรเซสเซอร์ส่วนใหญ่ให้กับพันธมิตรที่มีชื่อเสียง ซึ่งทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้แน่ใจว่าการขายทั้งหมดสอดคล้องกับกฎการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ
บริษัทเสริมว่า “สินค้ามือสองของเรามีจำหน่ายผ่านช่องทางมือสองมากมาย แม้ว่าเราจะไม่สามารถติดตามสินค้าได้หลังจากที่ขายออกไปแล้ว แต่ถ้าเราพบว่าลูกค้ารายใดละเมิดการควบคุมการส่งออกของสหรัฐฯ เราจะดำเนินการที่เหมาะสม”
หัวหน้าของผู้จำหน่ายคลาวด์รายย่อยรายหนึ่งในจีนกล่าวว่าต้นทุนในประเทศที่ต่ำช่วยชดเชยราคาที่สูงขึ้นที่ผู้ให้บริการต้องจ่ายสำหรับโปรเซสเซอร์ Nvidia ที่ลักลอบนำเข้า “วิศวกรมีราคาถูก พลังงานมีราคาถูก และการแข่งขันก็รุนแรง” เขากล่าว
ในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ Huaqiangbei ของเสิ่นเจิ้น พนักงานขายท้องถิ่นเสนอราคาเทียบเท่ากับ 23,000-30,000 ดอลลาร์ สำหรับการ์ดปลั๊กอิน H100 ของ Nvidia ส่วนผู้ขายออนไลน์เสนอราคาเทียบเท่ากับ 31,000-33,000 ดอลลาร์
Nvidia เรียกเก็บเงินลูกค้า 20,000-23,000 ดอลลาร์ สำหรับชิป H100 หลังจากลดราคาเมื่อเร็วๆ นี้ ตามที่ Dylan Patel จาก SemiAnalysis กล่าว
ฝนิให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์รายหนึ่งในจีนกล่าวว่าเซิร์ฟเวอร์ที่ผลิตโดย Supermicro ของ Silicon Valley และติดตั้งชิป H100 จำนวน 8 ตัวมีราคาขายสูงสุดที่ 3.2 ล้านหยวน หลังจากที่รัฐบาลไบเดนเข้มงวดข้อจำกัดการส่งออกในเดือนตุลาคม เขากล่าวว่าราคาได้ลดลงเหลือ 2.5 ล้านหยวนตั้งแต่นั้นมา เนื่องจากข้อจำกัดด้านอุปทานที่คลี่คลายลง
หลายคนที่เกี่ยวข้องกับการค้าดังกล่าวกล่าวว่าพ่อค้าในมาเลเซีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย มักจะส่งเซิร์ฟเวอร์ Supermicro หรือโปรเซสเซอร์ Nvidia ไปยังฮ่องกงก่อนจะส่งต่อไปยังเสิ่นเจิ้น
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการค้าในตลาดมืดนั้นขึ้นอยู่กับแนวทางแก้ไขที่ยากต่อการแก้ไขตามข้อบังคับการส่งออกของสหรัฐอเมริกา
ตัวอย่างเช่น ในขณะที่บริษัทลูกของบริษัทจีนถูกห้ามซื้อชิป AI ขั้นสูงนอกประเทศ ผู้บริหารของบริษัทเหล่านี้สามารถจัดตั้งบริษัทใหม่ในประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่นหรือมาเลเซีย เพื่อซื้อสินค้าดังกล่าวได้
“การบังคับใช้การควบคุมการส่งออกนอกพรมแดนสหรัฐฯ อย่างสมบูรณ์นั้นเป็นเรื่องยาก” ผู้เชี่ยวชาญด้านการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ กล่าว “นั่นเป็นเหตุผลที่ข้อบังคับดังกล่าวสร้างภาระผูกพันให้ผู้ส่งสินค้าต้องตรวจสอบผู้ใช้ปลายทาง และกระทรวงพาณิชย์ได้เพิ่มบริษัทที่เชื่อว่าละเมิดกฎดังกล่าวลงในรายชื่อแบล็คลิสต์ ที่ถูกห้าม”