ผู้บริหาร Apple เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่หลากหลายรุ่น พร้อมสัญญาว่าจะมีสีสันใหม่ และสามารถสร้างอีโมจิแบบกำหนดเองได้
Company executives showcase range of new hardware and promise new colors and ability to create custom emojis.
Apple เปิดตัว iPhone 16 พร้อมฟีเจอร์ AI ‘Apple Intelligence’
Apple นำเสนอ iPhone รุ่นล่าสุดในฐานะผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เป็นงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดของปี เนื่องจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีต้องการครองตำแหน่งผู้นำในการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI
Apple อ้างว่า iPhone 16 ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ของสมาร์ทโฟนได้รับการออกแบบให้รองรับคุณสมบัติปัญญาประดิษฐ์ “Apple Intelligence” ตั้งแต่พื้นฐาน ซึ่งรวมถึงความสามารถในการสร้างและแก้ไขข้อความให้เหมาะกับโทนสีบางโทน รวมถึงการใช้กล้องของอุปกรณ์เพื่อจดจำวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง
งานดังกล่าวจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของ Apple ในเมืองคูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยมีคำขวัญว่า “It’s glowtime” โดยมีโลโก้ของบริษัทรายล้อมด้วยรัศมีสีสันสดใส ผู้บริหารของบริษัทได้โฆษณาฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ และพยายามเน้นย้ำถึงวิธีการที่ Apple ผสาน AI เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตนผ่านวิดีโอสาธิตชุดหนึ่ง
“เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แนะนำ iPhone รุ่นแรกที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดสำหรับ Apple Intelligence และความสามารถที่ก้าวล้ำ” Tim Cook ซีอีโอของ Apple กล่าวในวิดีโอที่บันทึกไว้ล่วงหน้าระหว่างงานดังกล่าว
ระบบ “Apple Intelligence” ของบริษัทจะช่วยให้ iPhone สามารถทำงานต่างๆ ได้มากมาย เช่น การแก้ไขภาพ การใช้กล้องเพื่อระบุวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริง และการสร้างข้อความ ในระหว่างช่วงที่โปรโมต Apple Intelligence บริษัทได้สัญญาว่าจะสามารถสร้างอีโมจิแบบกำหนดเองได้โดยอิงจากคำสั่ง เช่น “cowboy frog” เท่านั้น
คุณสมบัติ AI ยังช่วยให้ผู้ใช้ค้นหารูปภาพ อีเมล และข้อความได้โดยการพิมพ์คำอธิบายหรือให้คำสั่งเสียงกับผู้ช่วยเสียง Siri
บริษัทจะให้บริการบูรณาการ AI แก่ผู้ใช้ภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกาในรูปแบบอัปเดตซอฟต์แวร์ฟรีในเดือนหน้า
ราคาหุ้นของ Apple ลดลงเล็กน้อยประมาณ 1% หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว
iPhone 16 รุ่นใหม่ยังจะมีหน้าจอแสดงผลที่ทนทานยิ่งขึ้น โดยมาพร้อมปุ่ม “action button” ที่สามารถทำงานต่างๆ ได้ตามต้องการ รวมถึงชิป A18 ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น
นอกจากนี้ Apple ยังเปิดตัวหูฟัง AirPod รุ่นใหม่ในงาน และเปิดตัว Apple Watch ดีไซน์ใหม่ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้นและชาร์จได้เร็วขึ้น รวมถึงฟีเจอร์แอปสุขภาพ เช่น การติดตามการนอนหลับ นอกจากนี้ AirPods Pro 2 ยังสามารถใช้เป็นเครื่องช่วยฟังสำหรับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับเล็กน้อยถึงปานกลางได้อีกด้วย
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในฤดูใบไม้ร่วงของ Apple กลายเป็นหนึ่งในงานประจำปีที่สำคัญที่สุดของบริษัท เนื่องจากโดยปกติแล้วจะมีการจัดแสดงอุปกรณ์ใหม่ๆ มากมาย กระตุ้นบรรยากาศฤดูกาลชอปปิงวันหยุด ซึ่งเป็นช่วงที่ Apple ทำงานหนักที่สุดและมีกำไรมากที่สุด ผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้มักเป็นสาเหตุของการคาดเดาอย่างมากมายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและในหมู่แฟนๆ ของบริษัท
ในช่วงก่อนงาน มีรายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนจากหน้าจอ LCD เป็น OLED และข่าวลือเกี่ยวกับปุ่มถ่ายภาพโดยเฉพาะที่แพร่สะพัดไปอย่างกว้างขวาง การรายงานในช่วงแรกของงานยังคาดการณ์ว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีรายนี้จะขยายคุณสมบัติ “Apple Intelligence” ของ AI อีกด้วย
เมื่อต้นปีนี้ที่งาน Worldwide Developers Conference (WWDC) ของ Apple บริษัทได้ประกาศแนวทางต่างๆ มากมายในการผสานรวมฟีเจอร์ AI เข้ากับผลิตภัณฑ์และบริการของตน หนึ่งในการเปิดเผยครั้งสำคัญที่สุดคือการร่วมมือกับ OpenAI เพื่อผสานเทคโนโลยี ChatGPT เข้ากับผู้ช่วยเสียง Siri ของ Apple โดยผู้บริหารระดับสูงสัญญาว่าจะมีรูปแบบการโต้ตอบที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
การประกาศของ Apple ในงาน WWDC และคำมั่นสัญญาที่จะรวมปัญญาประดิษฐ์เข้ามามากขึ้นถือเป็นจุดเปลี่ยนของบริษัท หลังจากที่บริษัทชะลอการเปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับผู้บริโภคไว้นานกว่าคู่แข่ง เช่น Microsoft ความลังเลของบริษัทในการเปิดตัวคุณสมบัติ generative AI ใหม่นั้นเคยเป็นแหล่งของความหงุดหงิดสำหรับนักลงทุนและนักวิเคราะห์ที่รอคอยการเปิดตัวเทคโนโลยีดังกล่าวของบริษัท
ราคาหุ้นของ Apple เพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้ เนื่องจากความกระตือรือร้นของตลาดต่อ generative AI และการเติบโตของรายได้ช่วยหนุนหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม บริษัทต้องดิ้นรนกับยอดขายสมาร์ทโฟนที่ตกต่ำทั่วโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการเพิ่มขึ้นของคู่แข่ง เช่น Huawei ในตลาดสำคัญ โดยเฉพาะจีน คาดว่า Huawei จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของตนเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากงานของ Apple
นอกจากนี้ ยังมีคดีต่อต้านการผูกขาดที่กว้างขวางของกระทรวงยุติธรรมต่อ Apple ซึ่งกล่าวหาว่าบริษัทสร้างและรักษาการผูกขาดตลาดสมาร์ทโฟนอย่างผิดกฎหมาย บริษัท Apple ปฏิเสธข้อกล่าวหาในคดีนี้ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะตัดสินได้