rembrandt.ai, davinci.ai, artist.ai: The Plight of Artists in an Artificial Intelligence World

ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดว่า “เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ และศิลปะที่มีประโยชน์ โดยการรับรองสิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่ผู้แต่งและผู้ประดิษฐ์ในงานเขียนและการค้นพบของพวกเขาตามลำดับเป็นระยะเวลาจำกัด” 

The entire quote from the Constitution reads, “To promote the progress of science and useful arts, by securing for limited times to authors and inventors the exclusive right to their respective writings and discoveries.” But it is the “promote the progress of . . . “

rembrandt.ai, davinci.ai, artist.ai: อนาคตของศิลปินในโลกปัญญาประดิษฐ์

ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดว่า “เพื่อส่งเสริมความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ และศิลปะที่มีประโยชน์ โดยการรับรองสิทธิแต่เพียงผู้เดียวแก่ผู้แต่งและผู้ประดิษฐ์ในงานเขียนและการค้นพบของพวกเขาตามลำดับเป็นระยะเวลาจำกัด” 

แนวคิดตามกฎหมาย ที่มุ่งส่งเสริมความก้าวหน้า กำลังเผชิญหน้ากับศาล ที่ไม่เห็นว่าปัญญาประดิษฐ์เป็น “ความก้าวหน้า” แต่กลับเห็นว่า ต้องปกป้องศิลปะจากปัญญาประดิษฐ์

“ศิลปิน” ที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สร้างผลงานสร้างสรรค์ กลายเป็นความก้าวหน้าที่ท้าทายของสำนักงานลิขสิทธิ์ 

สำนักงานลิขสิทธิ์ได้แถลงนโยบายเพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติในการตรวจสอบและจดทะเบียนผลงานที่สร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการขอลิขสิทธิ์ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม 2566

ในเดือนสิงหาคม 2566 ใทีมีกรณีศึกษาที่ผู้สร้างสรรค์ผลงานถูกปฏิเสธการคุ้มครองลิขสิทธิ์สำหรับผลงานศิลปะที่สร้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ศาลเขต D.C. ตัดสินว่า ฟังก์ชันปัญญาประดิษฐ์เป็นผู้สร้างผลงานศิลปะเพียงผู้เดียว แต่เนื่องจากมีเพียงบุคคลเท่านั้นที่สามารถถือครองลิขสิทธิ์ได้ ดังนั้นผลงานศิลปะ AI นี้และอื่น ๆ จึงไม่มีสิทธิ์จดทะเบียน

ผู้สร้างสรรค์ผลงานที่ต้องการจดลิขสิทธิ์ในคดีนี้ คือ Thaler ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนผลงานชื่อ “Entrance to Paradise” ซึ่งสร้างโดยปัญญาประดิษฐ์ที่เขาระบุว่าเป็น “Creativity Machine” ของเขา ซึ่งเขารวมไว้เป็นผู้อ้างสิทธิ์ Thaler ยอมรับว่าผลงานศิลปะ “ถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติโดยอัลกอริทึมคอมพิวเตอร์ที่ทำงานบนเครื่อง” ในบันทึกการอ้างสิทธิ์ของเขา นอกจากนี้ เขายังเขียนในบันทึกถึงสำนักงานลิขสิทธิ์ว่าเขา “กำลังพยายามจดทะเบียนผลงานที่สร้างโดยคอมพิวเตอร์นี้เป็นงานจ้างทำให้กับเจ้าของ Creativity Machine” ซึ่งก็คือ Thaler

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2562 สำนักงานลิขสิทธิ์ได้ส่งจดหมายถึง Thaler ปฏิเสธการจดทะเบียนให้กับ Thaler โดยพบว่า “ขาดการสร้างสรรค์โดยมนุษย์ที่จำเป็นในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ลิขสิทธิ์”

หลังจากการอุทธรณ์หลายครั้ง คณะกรรมการทบทวนของสำนักงานได้ยืนยันคำตัดสินสุดท้ายยืนยันว่าผลงานนี้ไม่สามารถจดทะเบียนได้เนื่องจากถูกสร้างขึ้น “โดยปราศจากการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ใด ๆ จากมนุษย์”

ในสัปดาห์นี้ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ศาลอุทธรณ์เขต D.C. ได้รับฟังการอุทธรณ์จากคำตัดสินของศาลเขต D.C. เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งยืนยันการตัดสินใจของสำนักงานลิขสิทธิ์ที่ไม่จดทะเบียนผลงานที่สร้างโดย AI คำถามคือว่า สำนักงานลิขสิทธิ์ “ปฏิเสธคำขอจดทะเบียนที่อ้างว่าผลงานถูกสร้างขึ้นโดยอัตโนมัติโดยระบบ AI อย่างถูกต้องหรือไม่” แต่ Thaler โต้แย้งว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องมากกว่าที่เคยโต้แย้งไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้คณะผู้พิพากษาสับสนว่าคำถามอะไรที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา ตามรายงานหนึ่ง มีแนวโน้มว่าความเห็นของศาลชั้นต้นจะได้รับการยืนยัน แต่เราจะต้องรอดูต่อไป

AI กับการประกวดผลงานทางศิลปะ

ในปี 2565 Jason Michael Allen ได้ส่งผลงานศิลปะที่สร้างด้วย AI โดยใช้ Midjourney เข้าร่วมการแข่งขันในงาน Colorado State Fair ในหมวดศิลปะที่สร้างด้วยดิจิทัล และชนะรางวัลชนะเลิศ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ AI ชนะในการแข่งขัน

สำนักงานลิขสิทธิ์ยังปฏิเสธคำขอจดลิขสิทธิ์ของ Allen สำหรับผลงานที่ชนะรางวัล โดยอ้างว่า ผลงานเกิดจากปัญญาประดิษฐ์มากกว่ามนุษย์ (สำนักงานได้ขอให้ Allen ระบุว่าองค์ประกอบใดเป็นของเขา แต่เขาปฏิเสธที่จะชี้แจง)

ข้อโต้แย้งของศิลปิน

ศิลปินที่สร้างผลงานศิลปะโต้แย้งว่าฟังก์ชันปัญญาประดิษฐ์ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนที่ได้รับจากการดูดซับผลงานของพวกเขา ดังนั้นจึงใช้ผลงานของผู้อื่นเพื่อสร้างผลงานของตนเอง อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่านั่นคือสิ่งที่จิตใจของมนุษย์ทำโดยการเป็นมนุษย์และอาศัยอยู่ในโลกของศิลปะ พวกเขาได้รับแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์ตามการ “ฝึกฝน” จากการเห็นผลงานของศิลปินระดับมาสเตอร์ที่วาดภาพและสร้างผลงานศิลปะชิ้นเอกมากมาย รวมถึงศิลปินที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก การมีเครื่องจักรช่วยคุณในกระบวนการนั้นก็เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของมนุษย์อย่างหนึ่ง

ปัญญาประดิษฐ์สำหรับศิลปินในปัจจุบัน

แอปพลิเคชัน AI หลายตัว รวมถึงสองตัวที่อยู่ในชื่อบทความนี้ ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ศิลปินใช้ในการสร้างงานศิลปะที่สามารถนำไปใช้เชิงพาณิชย์หรือขายได้ แต่ยังไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ได้

การแข่งขันบางรายการ เช่น การแข่งขัน Colorado Fair ซึ่งผลงานศิลปะที่สร้างโดย AI ชิ้นแรกๆ ชนะการแข่งขันในหมวดดิจิทัล ได้กำหนดให้ต้องเปิดเผยว่าศิลปินใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างผลงานที่ส่งเข้าประกวดหรือไม่

จนกว่าเราจะมีผลการพิจารณาคดีจากศาลอุทธรณ์ D.C. ผลงานจาก AI เหล่านี้จะยังคงไม่มีลิขสิทธิ์ เนื่องจาก AI ไม่ใช่บุคคล และไม่สามารถจดลิขสิทธิ์ ในนามของศิลปินผู้สร้าง prompts ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้สร้างผลงานด้วยตนเอง

ในท้ายที่สุด เมื่อรัฐสภาสหรัฐฯ รู้เท่าทันต่อสถานการณ์ของศิลปินและลิขสิทธิ์ พวกเขาอาจสามารถร่างกฎหมายสำหรับหมวดหมู่ใหม่ของงานศิลปะที่สร้างโดย AI ซึ่งมีข้อจำกัดบางประการในการละเมิดลิขสิทธิ์เช่นเดียวกับงานศิลปะที่สร้างโดยมนุษย์ “ศิลปินผู้สร้าง prompts” จะต้องสั่งให้ AI ไม่ “คัดลอก” ผลงานอื่น ซึ่งอาจเป็นความท้าทายอย่างยิ่ง

แล้วผมเป็นเจ้าของภาพคล้ายโมนาลิซาที่สร้างด้วยปัญญาประดิษฐ์ในตอนต้นบทความนี้หรือไม่? แน่นอนว่ามันถูกฝึกฝนจากภาพโมนาลิซาต้นฉบับที่วาดโดยดาวินชีในปี 1503-1506

ใช่ ผมเป็นเจ้าของมัน แต่ผมไม่ใช่ผู้สร้างสรรค์ผลงาน อย่างไรก็ตามผมสามารถใช้มันได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ แต่มันไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ – อย่างน้อยก็ในตอนนี้

view original *