Perplexity CEO Speaks at News Corp. Event Days After Lawsuit: “Let’s Talk About the Elephant in the Room”

เมื่อวันจันทร์ News Corp. ได้ยื่นฟ้องบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ Perplexity โดยกล่าวหาว่าบริษัท AI-generated search ละเมิดลิขสิทธิ์โดยการนำผลงานของสำนักข่าวไปใช้ และนำเสนอใหม่ให้กับผู้ใช้

On Monday, News Corp. filed a lawsuit against the artificial intelligence firm Perplexity, arguing that the AI-generated search company infringed on its copyrights by ingesting its work and repackaging it to its users.

CEO Perplexity พูดอะไรในงาน WSJ Tech conference ซึ่งจัดโดยสื่อชั้นนำของ News Corp. ที่เพิ่งยื่นฟ้องบริษัทของเขา

เมื่อวันจันทร์ News Corp. ได้ยื่นฟ้องบริษัทด้านปัญญาประดิษฐ์ Perplexity โดยกล่าวหาว่าบริษัท AI-generated search ละเมิดลิขสิทธิ์โดยการนำผลงานของสำนักข่าวไปใช้ และนำเสนอใหม่ให้กับผู้ใช้

เมื่อวันพุธ Aravind Srinivas CEO ของ Perplexity ได้ปรากฏตัวในการประชุมของ News Corp. ซึ่งเขาพยายามที่จะพูดถึงประเด็นการฟ้องร้องระหว่าง News Corp. และ Perplexity ที่เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้างานสัมมนา ตั้งแต่เริ่มการสนทนา

Srinivas ได้รับการสัมภาษณ์ในงาน WSJ Tech conference ซึ่งจัดโดยสื่อชั้นนำ The Wall Street Journal ของสำนักข่าว News Corp. “พวกเขาไม่ใช่สำนักพิมพ์เพียงแห่งเดียวที่กังวลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ AI-generated search ที่นำเสนอเนื้อหาของพวกเขาในคำตอบ” Srinivas กล่าวถึงสำนักข่าว

“ผมขอบอกว่าพวกเขาติดต่อมาหาเราประมาณเดือนมิถุนายน เพื่อพูดคุยกับเรา และเราก็ตอบกลับไปว่าเราเปิดกว้างที่จะพูดคุย และสนใจที่จะมีการเจรจาเชิงพาณิชย์อย่างเหมาะสมเกี่ยวกับการใช้เนื้อหาใน Wall Street Journal และสื่ออื่นๆ ที่พวกเขาเป็นเจ้าของ ดังนั้นเราจึงประหลาดใจมากกับการฟ้องร้องครั้งนี้ เพราะเราต้องการที่จะพูดคุยจริงๆ” เขากล่าวเพิ่มเติม

Srinivas เปรียบเทียบบริษัทของเขากับ Spotify บริการสตรีมมิ่งเพลงที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโมเดลธุรกิจของดนตรี ซึ่งเคยประสบกับรายได้และอิทธิพลที่ลดลงจากค่ายเพลง จนกระทั่งการเติบโตของการสตรีมมิ่งช่วยพลิกฟื้นกลับมาสู่ยุคแห่งการเติบโต

จุดประสงค์ที่ผมมาที่นี่คือ การทำให้ชัดเจนว่าผมอยากมีสัญญาเชิงพาณิชย์ และไม่ว่าจะเป็น Wall Street Journal หรือสำนักข่าวใด เรามีโปรแกรมสำหรับเจ้าของคอนเทนท์ที่คัดสรรแล้ว ซึ่งเราได้ประกาศไปเมื่อหลายเดือนก่อน โดยเราระบุชัดเจนว่าเราจะทำโฆษณาบน Perplexity และเมื่อใดก็ตามที่เราได้รายได้จากโฆษณา เราจะแบ่งรายได้นั้นกับเจ้าของคอนเทนท์ ในเงื่อนไขที่ได้แรงบันดาลใจจาก Spotify ที่ผู้สร้างสรรค์ยังคงได้รับเงินตราบใดที่ Spotify ยังเติบโต เขากล่าวเสริมว่า “ผมหวังว่าเราจะสามารถหาทางออกได้”

Perplexity วางตัวเองเป็นคู่แข่งหน้าใหม่ของ Google ช่วยให้ผู้ใช้ถามคำถามเพื่อได้รับคำตอบ แต่ในขณะที่ Google (อย่างน้อยในตอนแรก) ให้บริการผู้ใช้โดยให้ลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่นๆ Perplexity รวบรวมเนื้อหาจำนวนมากและย่อให้กระชับเพื่อให้คำตอบ มีการอ้างอิงแหล่งที่มา แต่ความกังวลของผู้เผยแพร่หลายรายคือ Perplexity  จะทำให้ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเข้าชมแหล่งข้อมูลต้นฉบับ

ในขณะที่ News Corp. ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อโต้แย้งว่า ได้พบว่า Perplexity มีการใช้เนื้อหาต้นฉบับแบบคำต่อคำ แต่ที่แย่ไปกว่านั้น ยังสร้างข้อมูลเท็จบางอย่างแล้วอ้างอิงสื่อของพวกเขา อีกด้วย

“เราพยายามอย่างเต็มที่ในการฝึกโมเดลเหล่านี้เพิ่มเติม เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้แค่สร้างเนื้อหาตามต้นฉบับ แต่กำลังพยายามนำแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย มาให้มุมมองที่แตกต่าง” Srinivas กล่าว “AI ยังไม่สมบูรณ์แบบ เรายังคงทำงานกับเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาที่มีอยู่ในวันนี้เป็นชุดปัญหาใหม่ที่ไม่มีอยู่เมื่อหนึ่งปีหรือสองปีก่อน การสร้างข้อมูลเท็จเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่สื่อไม่พอใจหากถูกอ้างอิงในคำตอบที่อาจไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจได้” เขากล่าวเพิ่มเติม “เรากำลังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเป็นแชทบอทที่แม่นยำที่สุดในตลาดด้วยการพยายามยึดคำตอบของเรากับแหล่งข้อมูลอยู่เสมอ และทุกวัน ทุกคนในบริษัทกำลังติดตามคำตอบที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดและคิดหาวิธีแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเรากำลังทำดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์จะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง”

ในขณะนี้ Perplexity ยังคงระดมทุน โดยล่าสุด ประเมินมูลค่าตัวเองที่ประมาณ 9 พันล้านดอลลาร์ Srinivas บอกกับที่ประชุมว่าเขาหวังว่า บริษัทจะทำกำไรได้ในอีกสามถึงห้าปี แม้ว่าความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับ generative AI จะมีบทบาทสำคัญต่อเป้าหมายนี้

view original*