Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทนวัตกรรมในซานฟรานซิสโก ที่สร้างสรรค์นวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้รับความสนใจอย่าง Chat GPT และ Dall-E ก่อนหน้านี้ อัลท์แมน เป็นประธานของ Y Combinator ซึ่งเป็นหนึ่งใน Startup Accelerator ที่โดดเด่นที่สุดของ Silicon Valley และบทเรียนของเขาสามารถจุดประกาย สร้างแรงบันดาลใจให้กับเราทุกคนได้
แซม อัลท์แมน คือใคร?
แซม อัลท์แมน เกิดในชิคาโกและเติบโตในเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี ที่ซึ่งความชื่นชอบด้านเทคโนโลยีของเขาแสดงให้เห็นตั้งแต่ แปดขวบ เขาเขียนโปรแกรมและแยกชิ้นส่วนเครื่องแมคอินทอชเพื่อเรียนรู้ ทักษะของเขาทำให้เขาได้รับเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดในเวลาต่อมา ที่ซึ่งเขาศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เป็นเวลาสองปีก่อนที่จะลาออก (พร้อมกับเพื่อนร่วมชั้นสองคน) เพื่อทำงานในแอพแชร์ตำแหน่งที่ตั้งชื่อว่า Loopt ณ จุดหนึ่ง Loopt มีมูลค่า 175 ล้านดอลลาร์ แต่ในที่สุดก็ขายได้ 43 ล้านดอลลาร์ในปี 2555 จากนั้น อัลท์แมนได้เริ่มก่อตั้งกองทุนร่วม Hydrazine Capital โดยระดมทุนได้ 21 ล้านดอลลาร์และได้รับเงินลงทุนจากผู้ประกอบการและนักลงทุน Peter Thiel แซม อัลท์แมน ลงทุนในบริษัทหลายสิบแห่ง โดยเล็งบริษัทที่ดูไม่ค่อยดี เห็นปัญหาชัดเจน แต่เขาเห็นมูลค่าที่ซ่อนอยู่ และมีราคาต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เขายังเป็นหัวหน้าไซต์ระดมทุนซีรีส์ B สำหรับโซเชียลยอดนิยมอย่าง Reddit จากนั้นในปี 2014 แซม อัลท์แมน รับตำแหน่งต่อจาก Paul Graham ในตำแหน่งประธานของ Y Combinator (YC) ซึ่งเป็นตัวเร่งการเริ่มต้นสตาร์ทอัพ โดยให้ความสำคัญกับการเพิ่มสตาร์ทอัพด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมมากขึ้น เขาก้าวลงจากตำแหน่งประธาน YC ในปี 2019 เพื่อมุ่งเน้นไปที่ OpenAI ในเดือนมกราคม 2023 มีการประกาศว่า Microsoft กำลังลงทุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ใน OpenAI
เป้าหมายของ OpenAI คืออะไร? แซม อัลท์แมน และ Elon Musk ก่อตั้ง OpenAI เพื่อพัฒนา AI ในวิธีที่ “ปลอดภัยและเป็นประโยชน์” และเพื่อให้แน่ใจว่ามนุษยชาติจะไม่ได้รับผลกระทบในทางลบจากปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT Professional เวอร์ชันสร้างรายได้พร้อมให้ใช้งานเพื่อชดเชยต้นทุนการประมวลผลที่ “น่าจับตามอง” บางส่วน นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวบริการสมัครรับข้อมูลนำร่อง แผนราคา $20 ต่อเดือนพร้อมสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงเวลาตอบสนองที่เร็วขึ้นและการเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ ก่อนใคร เพื่อดำเนินการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้แซม อัลท์แมน ได้ลงทุน 375 ล้านดอลลาร์ใน Helion Energy เพื่อช่วยพัฒนาระบบฟิวชันพลังงานต้นทุนต่ำที่สามารถให้พลังงานแก่โลก
6 บทเรียนสู่ความสำเร็จจาก แซม อัลท์แมน จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ต้องการประสบความสำเร็จในอนาคต:
1. พัฒนาความเชื่อมั่นในตนเองที่ไม่สั่นคลอน (แต่สมดุล) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องเชื่อมั่นในตัวเอง ความเชื่อในตนเองอาจถึงขั้นหลงผิด ดังที่อัลท์แมนยืนยันว่า: “คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดที่ฉันรู้จักเชื่อในตัวเองจนเกือบถึงขั้นหลงผิด” ปัจจัยสำคัญสองประการที่แยกความเป็นจริงออกจากความหลงผิดคือความตระหนักรู้ในตนเองและความซื่อสัตย์ ดังนั้น ความเชื่อในตนเองของคุณควรได้รับการเติมพลังจากความสำเร็จของคุณและตรวจสอบโดยการตัดสินที่ดีของคุณ หากคุณหวังว่าจะแก้ปัญหาที่ก่อกวนอย่างแท้จริง สิ่งสำคัญคือต้องประเมินคำวิจารณ์ด้วยใจที่เปิดกว้าง ไม่มีอคติ และปลูกฝัง ー และขวัญกำลังใจของ ーและทีมของคุณโดยไม่สร้างความเย่อหยิ่ง
2. ทำงานอย่างชาญฉลาด และหนักขึ้น แซม อัลท์แมน กล่าวว่าคนๆ หนึ่งสามารถ “ไปถึงเ 90% ในสายงานของคุณได้โดยการทำงานอย่างชาญฉลาดหรืออย่างหนัก ซึ่งยังคงเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่” แต่การจะไปถึง 99% นั้น ต้องใช้เคล็ดลับ อย่ามองหาทางลัดหรือพยายามแทนที่ความขยัน ให้พัฒนาความคิดของคุณแล้วทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อมองผ่าน ความคิดนี้สามารถขับเคลื่อนวัฏจักรที่หมุนวนในตัวเองได้ เนื่องจาก “ส่วนผสมของโมเมนตัม และความสำเร็จนำมาซึ่งความสำเร็จ”
3. อย่าจมอยู่กับความคาดหวัง ความคาดหวัง หรือการคาดคะเน ไหลไปตามกระแส ตัดสินใจตามเวลาจริง และอย่ายึดติดกับการคาดการณ์หรือแนวโน้มที่เฉพาะเจาะจงมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เช่น AI ตัวอย่างเช่น มีความคิดว่าแอปพลิเคชันอัจฉริยะเทียมจะปฏิวัติโดเมนทางกายภาพก่อน รวมถึงการผลิตและการใช้แรงงานคน ความรู้ความเข้าใจและงานสร้างสรรค์จะเกิดขึ้นในภายหลัง แต่ด้วยความสามารถของ DALL-E 2 สถานการณ์ “ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นไปในทางตรงข้าม”
4. แฟนตัวยงไม่กี่คนมีความสำคัญมากกว่าแฟนตัวยงหลายคน สร้างบางสิ่งหรือเป็นคนที่ผู้คนรัก แม้ว่าจะเป็นผู้ติดตามที่จงรักภักดีเพียงไม่กี่คน แต่การได้รับความรักจากบางคนก็ยังดีกว่าการถูกชื่นชมจากคนมากมาย ทำไม เนื่องจากความสามารถในการปรับขนาดเป็นสิ่งสำคัญและสิ่งที่สำคัญที่สุดในการปรับขนาดคือความรัก “เมล็ดพันธุ์แห่งสเกลที่แท้จริงคือความรักและคุณไม่สามารถซื้อมัน แฮกมัน หรือเล่นเกมมันได้”
5. ต่อต้านสัญชาตญาณ แซม อัลท์แมน กล่าวว่า “ไอเดียที่ดีที่สุดมักดูแย่ในตอนเริ่มต้น ในขั้นต้นแนวคิดที่ดีที่สุดอาจฟังดูไม่เหมาะสมหรือเหมาะสมด้วยซ้ำ เนื่องจากนวัตกรรมที่ประเมินค่าไม่ได้มักไม่เป็นไปตามสัญชาตญาณ ดังนั้น แม้ว่าแนวคิด “ดี” จำนวนมากอาจได้รับการสำรวจหรือพัฒนาแล้ว แต่แนวคิด “ไม่ดี” จำนวนมากยังไม่มี และอาจกลายเป็นแนวคิดที่ดีที่สุดได้หากมีความเอาใจใส่และความพยายามเพิ่มเติม
6. ความก้าวหน้าเพียงเล็กน้อยก็มีค่าเท่ากับความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ อย่าท้อแท้หากโครงการไม่เป็นไปตามความคาดหวัง เพราะคุณไม่มีทางรู้ว่านวัตกรรมเชิงบูรณาการจะมาถึงเมื่อใดหรืออย่างไร อาจไม่ใช่แนวคิดหลักที่ใช้แรงงานมากด้วยซ้ำ — ใช้เพียง “แนวคิดเดียวเกี่ยวกับแบบจำลองการแพร่กระจาย เพียงการพัฒนาอัลกอริทึมเล็กน้อย” เพื่อเปลี่ยน DALL-E 2 จาก “สิ่งที่ไม่ดีนัก” ให้กลายเป็นสิ่งที่สร้างผลกระทบได้ เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก ทำอย่างไรจึงจะมีอิทธิพลและสร้างสิ่งที่มีค่า แซม อัลท์แมน อยู่แถวหน้าของความก้าวหน้าที่อาจปฏิวัติวงการถัดไป: AI เทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถปรับปรุงได้โดยการสอน สร้างแรงบันดาลใจ และเปิดโอกาสที่คาดไม่ถึงในทุกมิติที่สำคัญ รวมถึงวิทยาศาสตร์และศิลปะ ให้จิตวิญญาณของการปรับปรุงนั้นช่วยให้คุณดีขึ้นโดยถามตัวเองด้วยคำถามเหล่านี้: ฉันเชื่อในตัวเองหรือไม่? ทำไมหรือทำไมไม่? ฉันจะหาวิธีทำงานหนักขึ้นและฉลาดขึ้นได้อย่างไร ฉันถูกจำกัดหรือได้รับอิทธิพลในทางลบจากความชอบของฉันหรือของคนอื่นหรือไม่? สิ่งที่ฉันทำส่งเสริมความรักหรือไม่? ฉันต่อต้านสัญชาตญาณและสร้างสรรค์เพียงพอกับความคิดและการกระทำของฉันหรือไม่ ฉันคิดบวกและมองหาวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ เมื่อเผชิญกับความทุกข์ยากหรือไม่?
Sam Altman is the co-founder and CEO of OpenAI LP, the San Francisco-based business behind the much-publicized artificial intelligence (AI) agents Chat GPT and Dall-E. Altman is also the former president of Y Combinator, one of Silicon Valley’s most prominent startup accelerators, and his lessons can inform and inspire us all.
Who Is Sam Altman?
Altman was born in Chicago and raised in St. Louis, Missouri, where his technology affinity manifested early: he learned to program and deconstruct a Macintosh computer when he was only eight years old. His skills later earned him admission to Stanford University, where he studied computer science for two years before dropping out (along with two classmates) to work on a location-sharing app, Loopt.
Loopt was at one point valued at $175 million but eventually sold for $43 million in 2012. Altman then started the venture fund Hydrazine Capital, raising $21 million and securing an investment from entrepreneur and investor Peter Thiel.
Altman has invested in tens of companies, on the wisdom that one should find useful but “messy” companies with “warts on top” because they will be hugely underpriced. He even led the series B fundraising site for the popular social site Reddit.
Then, in 2014, Altman succeeded Paul Graham as president of the startup accelerator Y Combinator (YC), placing an increased focus on including more scientific and engineering startups.
He stepped down as YC president in 2019 to focus on OpenAI. In January 2023, it was announced that Microsoft is investing $10 billion in OpenAI.
What Is the Goal of OpenAI?
Sam Altman and Elon Musk founded OpenAI to develop AI in a “safe and beneficial” way and to ensure that humanity is not negatively impacted by artificial intelligence.
A monetized version, ChatGPT Professional, has become available to offset some of the “eye-watering” computing costs. Additionally, the company has launched a pilot subscription service, a $20-a-month plan with specific perks, including faster response time and early access to new features.
Continuing his investments, Altman recently invested $375 million in Helion Energy to help develop a low-cost energy fusion system that can power the globe. Additionally, Altman loves race cars, flying planes, and is prepared for an apocalyptic eventuality.
6 Lessons for Success from Sam Altman
Today’s social and technological landscape allows any of us to enjoy almost limitless success, become a positive influence, or create the next world-shaking advance. And the following 6 lessons from Sam Altman can offer a foundation for future triumph:
1. Develop an Unshakeable (but Balanced) Sense of Self-belief
To succeed in your goals, it’s important to believe in yourself. One’s self-belief may even approach delusion, as Altman asseverates: “The most successful people I know believe in themselves almost to the point of delusion.”
Yet two critical factors that separate reality from delusion are self-awareness and honesty. Therefore, your self-belief should be fueled by your accomplishments and checked by your sound judgments, if you hope to solve truly vexing problems.
It’s also important to evaluate criticism with an open, unbiased mind and to cultivate your ー and your team’s ー morale without inspiring arrogance.
2. Work Smarter. And Harder
Altman says that one can “get to about the 90th percentile in your field by working either smart or hard, which is still a great accomplishment.”
But working both hard and smart can vault you to the 99th percentile. The trick? Don’t look for shortcuts or try to replace diligence. Instead, develop your ideas and then work tirelessly to see them through. This mindset can power a self-perpetuating cycle, as “momentum compounds, and success begets success.”
3. Don’t Get Bogged Down with Expectations, Anticipations, or Prediction
Go with the flow, make real-time decisions, and don’t be too married to specific predictions or trends, especially in modern industries such as AI.
For example, it was thought that artificially intelligent applications would first revolutionize the physical domains, including production and manual labor. Cognitive labor, and then creative work, would materialize later. Yet with the capabilities of DALL-E 2, the situation “now looks like it’s going to go in the opposite order.”
4. A Few Hardcore Fans Are More Important Than a Lot of Lukewarm Ones
Create something, or be someone, that people love. Even if it’s just a few devoted followers, being adored by some is better than being liked by many. Why? Because scalability is essential, and the most vital thing that scales is love. “The true seed of scale is love, and you can’t buy it, hack it, or game it.”
5. Be Counterintuitive
“The best ideas often look terrible at the beginning,” Altman says. Initially, the best ideas may not sound optimal or even decent because invaluable innovations are often counterintuitive. So while many “good” ideas may already have been explored or developed, many “bad” ones haven’t, and may become optimal with additional attention and effort.
6. Little Advances Can Be As Valuable As Big Ones
Don’t be disheartened if a project isn’t meeting expectations because you never know when or how that integral innovation might arrive. It might not even be a major, labor-intensive idea — it took just “one single idea about diffusion models, just a little breakthrough in algorithms” to turn DALL-E 2 from “something that’s not very good” into such an impactful, globally popularized technology.
How to Be Influential and Create Something Invaluable
Sam Altman sits at the forefront of the next potentially revolutionary advance: AI. This transformational technology can improve by teaching, inspiring, and opening up unforeseen possibilities in every important realm, including science and art.
Let that spirit of improvement help you become better, by asking yourself these questions:
Do I believe in myself? Why or why not?
How can I find ways to work harder and smarter?
Am I being limited or adversely influenced by my or other people’s predilections?
Does what I do foster love?
Am I being counterintuitive and innovative enough with my ideas and actions?
Am I staying positive, and looking for new solutions, in the face of adversity?