Jidu to use ChatGPT-like service from Baidu in their self-driving Robo EVs.

Jidu Auto เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนที่จัดตั้งขึ้นจากการร่วมทุนระหว่าง Baidu บริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ และผู้ผลิตรถยนต์ Geely เจ้าของแบรนด์ Volvo และ Lotus  Xia Yiping ซีอีโอของ Jidu ประกาศว่าบริษัทจะรวม Ernie bot ซึ่งเป็น AI chatbot ที่พัฒนาโดย Baidu เข้ากับรถยนต์เพื่อสร้างประสบการณ์ AI แบบโต้ตอบสำหรับผู้ใช้ EV

Jidu Auto is a Chinese EV maker established as a joint venture between search engine giant Baidu and automaker Geely – Volvo and Lotus brands owner. Xia Yiping, CEO of Jidu, announced the company would integrate the Ernie bot, an AI chatbot developed by Baidu, into its cars to build an AI interactive experience for their EVs users.

Jidu จะใช้ Ernie bot จาก Baidu ในรถยนต์ไฟฟ้า Robo ที่ขับขี่อัตโนมัติ

ภายใน Robo-01 ของ Jidu  มีอะไรหายไปบนที่นั่งคนขับ?

Jidu Auto เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน ที่ร่วมทุนระหว่าง Baidu บริษัทเสิร์ชเอ็นจิ้นยักษ์ใหญ่ และผู้ผลิตรถยนต์ Geely เจ้าของแบรนด์ Volvo และ Lotus 

Xia Yiping ซีอีโอของ Jidu ประกาศว่าบริษัทจะรวม Ernie bot ซึ่งเป็น AI chatbot ที่พัฒนาโดย Baidu เข้ากับรถยนต์เพื่อสร้างประสบการณ์ AI แบบโต้ตอบสำหรับผู้ใช้ EV

Ernie bot เป็นบริการที่คล้ายกับ ChatGPT ซึ่งยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ และจะเสร็จสิ้นการทดสอบภายในในเดือนมีนาคม  Ernie หรือ “Enhanced Representation through Knowledge Integration” โดยพื้นฐานแล้วเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 Baidu กล่าว

Jidu เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Google Baidu และผู้ผลิตรถยนต์ Geely ของจีน  Baidu ถือหุ้น 55% และ Geely ถือหุ้น 45%  Xia Yiping ซีอีโอของ Jidu กล่าวก่อนหน้านี้ว่า Baidu จะมีบทบาทนำใน Jidu และ Geely จะดูแลการผลิต

Wei Dong รองประธานกลุ่ม Intelligent Driving Group ของ Baidu กับต้นแบบต่างๆ ของรถยนต์ไร้คนขับที่พัฒนาโดย Baidu Inc.

 Jidu เปิดตัวรถยนต์ออกมาแล้ว สองรุ่น– Robo-01 และ Robo-02  ภายใต้แพลตฟอร์ม SEA ของ Geely เป็นรากฐานของรถทั้งสองรุ่น  รถแนวคิดไม่มีพวงมาลัย ซึ่งเวอร์ชั่นโปรดักชั่นจะได้รับในชื่อ Jidu อย่างแน่นอน และกฎระเบียบก็อยู่ไม่ไกล  อย่างไรก็ตาม ความพยายามที่จะทำให้รถของพวกเขาเป็นอิสระมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นั้นชัดเจน  EVs ติดตั้ง L4 self-driving โดยใช้แพลตฟอร์ม Apollo แบบเปิดที่ Baidu พัฒนาขึ้น

Self-Driving ระบบขับขี่อัตโนมัติ มี 5 Level ได้แก่

L 1 จะมีระบบอัตโนมัติ ช่วยเหลือผู้ขับขี่ เช่น การบังคับเลี้ยวหรือการเร่งและรักษาคุมความเร็วคงที่ รวมทั้งระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบปรับความเร็วอัตโนมัติ ซึ่งสามารถควบคุมยานพาหนะไว้ในระยะที่ปลอดภัยต่ออุบัตเหตุ ซึ่งคุณสมบัติ Level 1 ยังต้องการวิจารณญาณของมนุษย์คนขับ ตรวจสอบการใช้ฟังก์ชั่นช่วยขับขี่ร่วมด้วย
ระด

L 2 จะมีระบบ ADAS หรือ Advanced Driver Assistance Systems ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวอัตโนมัติคู่กับระบบความคุมอัตรเร่งและปรับความเร็วให้ทำงานประสานกันผ่านกลไกการควบคุมที่ซับซ้อน… ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ทุกค่ายล้วนใส่เงินไปกับการวิจัยระบบ ADAS ต่อเนื่องมานาน ซึ่งระบบ ADAS ที่มีชื่อเสียงและสอบผ่านมาตรฐาน Level 2 รุ่นแรกๆ จนได้ทดสอบ


L 3 จะมีความสามารถในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเช่น การเร่งแซงรถที่ช้า แต่ระบบก็ยังต้องการความช่วยเหลือจากมนุษย์ แม้มนุษย์ไม่ต้องเหยียบคันเร่งถือพวงมาลัย… แต่ผู้ขับขี่จะต้องตื่นตัวและพร้อมที่จะเข้าควบคุมทันทีหากระบบผิดพลาด ซึ่งส่วนใหญ่ระบบจะออกแบบให้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานอัตโนมัติตลอดเวลา และหาก Condition หรือเงื่อนไขการทำงานในระบบผิดพลาด… รถจะมีฟังก์ชั่นขอความช่วยเหลือจากมนุษย์ติดมาด้วย


L 4 ไม่ต้องมีมนุษย์คอยช่วยเหลือในยามเข้าตาจนเหมือน Level 3 อีกเลย แม้จะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นทั้งในระบบและสภาพแวดล้อมภายนอก หรือแม้แต่เกิดขัดข้องขึ้น พาหนะ Level 4 ก็จะจัดการความผิดปกติและบกพร่องทั้งหลายได้เอง โดยพึ่งพา และปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ในฐานะผู้โดยสาร มากกว่าจะพึ่งพามนุษย์ในฐานะผู้ควบคุมปกป้องความผิดพลาด พาหนะ Level 4 สามารถทำงานในโหมดขับขี่ด้วยตนเอง หรือ Self-Driving Mode ได้อย่างสมบูรณ์


L 5 ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ จากมนุษย์อีก เพราะระบบจะทำงาน Dynamic Driving Task เต็มประสิทธิภาพ เทียบเท่าระดับเดียวกับหรือดีกว่ามนุษย์ที่มีทักษะการขับรถยอดเยี่ยมที่สุด… พาหนะ Level 5 จึงไม่มีแม้แต่พวงมาลัย แป้นเหยียบคันเร่งและแป้นเบรก ทำให้พาหนะ Level 5 เป็น Fully Autonomous Cars ซึ่งเป็นเป้าหมายความสำเร็จของการพัฒนายานพาหนะบนผิวพื้นยุคต่อไป… ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่า กฏหมายและโครงสร้างพื้นฐานของ Smart City

 EV ทั้งสองคัน อยู่ในขั้นตอนการผลิตเลย  Jidu ได้รวบรวมคำสั่งซื้อล่วงหน้าสำหรับ Robo-01 และการส่งมอบจะเริ่มในปี 2023

ก่อนหน้าจะได้ใช้งานรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุด Jidu ได้ให้บริการแท็กซี่โรโบ Appolo Go ซึ่งใช้รถ MPV EV ขับเคลื่อนอัตโนมัติ Apollo RT6 รุ่น L4  ในประเทศจีนไปแล้ว ในหลายพื้นที่ โดนบริษัทยืนยันว่า ได้ให้บริการรถแท็กซี่ที่ใช้ระบบขับขี่อัตโนมัติ EV ไปถึง 1 ล้านคัน ในปีที่แล้ว

 RT6 เป็นรุ่นที่หกของเทคโนโลยีนี้ และ CarNewsChina เป็นสื่อภาษาอังกฤษรายแรกที่ได้รับเชิญให้เข้าใกล้เทคโนโลยีนี้  คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับธุรกิจ Baidus robotaxi เพิ่มเติมได้

ก้าวต่อไป คือการนำ Ernie bot มาใช้งาน ต่อไปคาดว่า จะสามารถควบคุมด้วยเสียง  นี่อาจเป็นข่าวดี สำหรับผู้ที่ไม่พอใจกับ การที่พวงมาลัย และปุ่มควบคุมต่างๆ หายไปจากยานยนต์ EV เนื่องจากแผงควบคุม LCD อาจยากสำหรับบางคนในการนำทาง  เราจะจับตาดูการพัฒนา เนื่องจากการรวม AI Bot เข้ากับระบบนิเวศ EV อาจเป็นก้าวสำคัญสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ และยานยนต์เคลื่อนที่แบบอัจฉริยะ

view original *