AI Coffee Talk | AI Art

พงษ์ระพี เตชพาหพงษ์

AI Coffee Talk | AI Art

เมื่อวานผมจัดงานจิบกาแฟเล็กๆในธีม AI Art ซึ่งเป็นครั้งที่สองของธีมนี้ โดยเชิญคน AI Art ตัวจิ๊ดๆของวงการมา Share & Connect กัน อย่างคุณแม็ก ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Stable Diffusion คุณบ็อกซ์ที่ทำทั้งดนตรีและงานภาพ และฝังตัวอยู่ในสายเอไอมาตั้งแต่ยุคแรกๆ คุณ Dojo ที่พื้นมาจากสายวาดและขยับมาใช้เอไอเป็นเครื่องมืออย่างจริงจัง คุณด้วงที่ทำโมเดลเอไอน่ารักๆช่วยหาเสียงของพรรคส้มที่เป็นไวรัลหลายคนคงได้เห็นกัน แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เพราะแกเร้นกายในหุบเขา ผมก็ต้องไปแคะออกมานั่งคุยนั่งจิบกาแฟกัน

บางคนก็รู้สึกแปลกใจที่โดนเลือกมาในงานนี้ จนคิดว่าผมจะดึงมาในงานขายตรงอะไรสักอย่างหรือเปล่า บางคนมาจากสายสร้างบ้านด้วยเอไอ บางคนมาจากสายถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก จริงๆแล้วผมต้องการหลากมุมมองของคนที่น่าจะเกี่ยวข้องกับการใช้เอไอ น่าเสียดายที่เชิญสายวาด สายดิจิตอลอาร์ท สายวิจิตรศิลป์ไปหลายคนแล้ว ทุกคนติดภารกิจไม่สามารถมาจอยในครั้งนี้ได้เลย

จากความงงๆของหลายคน พอมาเจอหน้าค่าตากันจริงๆ กลับคุยกันไม่หยุด ขนาดงานเลิกก็ยังออกไปคุยต่อกันเป็นกลุ่มอย่างติดพันจนขวางทางเดินคนอื่นไปนิดนึง สำหรับประเด็นพูดคุยหลักในงาน จะเป็นเรื่องของที่ไปที่มาของแต่ละคนว่ามาเจอเอไอได้อย่างไร ใช้มันแบบไหน และมีมุมมองต่อทิศทางของเอไออาร์ทอะไรบ้าง

สิ่งหนึ่งที่เห็นพ้องต้องกันก็คือ เอไอมาแล้ว มันห้ามไม่ได้ มันมาช่วยเรื่อง Productivity อย่างเห็นชัดที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดเวลาการทำงาน ช่วยงานสร้างสรรค์หลายๆอย่างที่แต่ก่อนต้องไปจ้างคนอื่นทำตอนนี้สามารถทำงานเองได้เลยอย่างน้อยในเบื้องต้น มันช่วยแสดงให้เห็นมุมมองแปลกๆหลากหลายที่อาจจะไม่เคยคิดมาก่อน ดังนั้นคนไม่ใช้ไม่เอาเอไอ ในระยะยาวก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และจะเหนื่อยกับการแข่งขันในตลาด

สิ่งที่เป็นห่วงกัน ก็คือประเด็นดราม่าของ AI Art กับงาน Fine Art ดั้งเดิมหรือว่าไปแล้วก่อนหน้านี้ก็น่าจะมีประเด็นนี้กับงาน Digital Art ในยุคก่อนโน้น

หลายคนเข้าใจเรื่องนี้ดี เพราะเป็นคนสาย Fine Art โดยตรงอย่างคน Dojo หรือคุณบ็อกซ์เอง แต่ทั้งสองคนก็อยากให้มองมันเป็น “เครื่องมือ” มากกว่า เพราะท้ายสุดแล้ว “คน” ก็คือ คนควบคุมสุดท้ายอยู่ดี ทั้งคอนเซปต์ การขายงาน และการเชื่อมต่อกับตลาด…คุณแม็กซ์เองก็ย้ำเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นเช่นกัน

คุณด้วงพื้นฐานทำงานเป็นครีเอทีฟเอเจนซี่ บอกว่าตอนนี้ ส่วนตัวและบริษัทเอาเครื่องมือเหล่านี้มาช่วย ขึ้นงานเพื่อดราฟเอาไปนำเสนอขายงานเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะมันเร็ว ถูก และงานออกมาอยู่ในระดับที่ใช้ได้ดี คุณก้องซึ่งไม่ได้มีพื้นทางด้านอาร์ทมาก่อน แถมเป็นเจ้าของโรงงานด้วยซ้ำไป แต่ก็มานั่งแกะ Stable Diffusion อย่างจริงจัง จนบอกว่าตอนนี้มีโปรเจกต์จะขึ้นอยู่หลายตัว และจะทำเองเสียด้วย

และที่น่าสนใจคือคุณตั้ม ที่มองเป็นโอกาส เอาเอไอมาช่วยในการเจนภาพบ้านในแบบต่างๆแล้วทำสตาร์ทอัป โซลูชันเกี่ยวกับบ้านไปเลย ส่วนคนสุดท้าย คุณขุนคนทำ Data Analyst แต่ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรก แต่ผมดูพอร์ทแล้วไม่ใช่งานอดิเรกแล้ว มันงานอาชีพชัดๆ ตอนนี้ยังไม่ได้เอาเอไอมาใช้เท่าไหร่ แต่เห็นมุมมองบางอย่าง เช่นถ่ายภาพไปแล้ว อาจจะไม่ได้ภาพในมุมที่ต้องการจริงๆ เขาสามารถเอาเอไอมาสร้างภาพให้กับลูกค้าได้ โดยใช้ภาพที่ถ่ายมาเทรนต่ออะไรแบบนี้เป็นต้น

ประเด็นที่คุยอันนึง ที่น่าเป็นห่วงก็คือ คนที่กำลังโดนดิสรัป กำลังโดนทิ้งไว้ข้างหลังคือ “คนที่ติดอยู่ตรงกลาง” คือยังไม่มีชื่อเสียงที่จะขายแบรนด์ตัวเอง เพิ่งฝึก เพิ่งทำงานมาไม่กี่ปี แต่พายุดิสรัปตัวนี้เข้ามา แนวโน้มแน่นอน การลดคนส่วนเกินย่อมเกิดขึ้นแน่ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ ใครที่ยังไม่สนใจศึกษา ไม่สนใจฝึกใช้ ตัวเลือกของคนจ้างก็จะไปที่คนที่ใช้เป็นใช้คล่อง รวมถึงตลาดย่อมต้องการงานที่เร็ว ราคาแข่งขันได้ และตลาดคงไม่ได้สนใจมากนักว่าจะสร้างด้วยอะไร ขอให้ตอบโจทย์งานของตัวเองก็โอเคแล้ว

และนี่คือบรรยากาศรวมๆของงาน AI Coffee Talk | AI Art แล้วคุณล่ะ ตอนนี้คิดอย่างไรกับ AI Art?

https://www.facebook.com/groups/5779011592182423/permalink/6243676625715915/