บริษัท Naver พัฒนา ChatGPT-like ของตัวเอง มีเวอร์ชันปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เพื่อจัดการกับความแตกต่างทางการเมืองและวัฒนธรรมของประเทศต่างๆ เช่น เวอร์ชั่นที่สอดคล้องกับข้อกำหนดการควบคุมข้อมูลของสหรัฐฯ
Localised versions to address political and cultural sensitivities as well as US data controls
Naver พัฒนาโมเดล AI ChatGPT-like ซึ่งจะเปิดตัวในไตรมาสนี้เพื่อปรับปรุงบริการของเกาหลี เช่น LINE © Bloomberg
บริษัท Naver จากเกาหลีใต้ พัฒนาโมเดล AI ChatGPT-like ปรับแต่งได้ตามข้อกำหนดของรัฐบาลแต่ละประเทศ
Naver ซึ่งเป็นเสิร์ชเอ็นจิ้นทางอินเทอร์เน็ตที่โดดเด่นของเกาหลีใต้ เตรียมที่จะนำเสนอโมเดลปัญญาประดิษฐ์ ChatGPT-like เวอร์ชั่นล่าสุดให้กับรัฐบาลประเทศต่างๆ ที่มีข้อกำหนดแตกต่างกันไป รวมทั้งการควบคุมข้อมูลของสหรัฐฯ แนวคิดที่แตกต่างจาก Microsoft และ Google ที่มุ่งเน้นไปที่โมเดล AI ที่เป็นสากล Naver มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับแต่ละประเทศ เช่น ประเทศที่มีความอ่อนไหวทางการเมืองในโลกอาหรับ เช่นเดียวกับประเทศที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ เช่น สเปนและเม็กซิโก โดยรัฐบาลแต่ละประเทศสามารถนำไปใช้ ในฐานะเป็นเจ้าของระบบ AI ปรับแต่งได้ตามบริบททางการเมืองและวัฒนธรรมของตน
Naver CEO Choi Soo-yeon speaks during a press conference. [NAVER]
Kim Yoo-won, co-CEO of Naver Cloud, introduces the company’s hyperscale AI HyperCLOVA X
“นี่จะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ เนื่องจากเทคโนโลยี AI ที่มีอำนาจอธิปไตยกำลังมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับการปกป้องข้อมูล” Sung Nako ผู้บริหารของบริษัท Naver ที่รับผิดชอบการพัฒนา hyperscale AI กล่าว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบพลังการประมวลผลและข้อมูลในระบบคลาวด์ในระดับมหาศาล เพื่อฝึกอบรมและใช้งาน AI เขาเปรียบเทียบการส่งออกโมเดล AI ของ Naver กับการสร้างโรงไฟฟ้าปรมาณูในต่างประเทศและช่วยประเทศเหล่านั้นดำเนินการ โดยอ้างว่าบริษัทสามารถส่งออกได้ในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งจากตะวันตกอย่างเช่น Amazon เมื่อเร็วๆ นี้ Naver ได้ลงนามในข้อตกลงเบื้องต้นกับซาอุดิอาระเบียเพื่อให้บริการด้านไอทีรวมถึงเครื่องมือ AI เพื่อช่วยให้ประเทศเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล “มันกำลังกลายเป็นเหมือนสงครามเย็นครั้งใหม่ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ มีอำนาจในการตรวจสอบข้อมูลและข้อมูลที่จัดเก็บไว้ในระบบคลาวด์ของบริษัทอเมริกัน” ซุงกล่าว โดยชี้ให้เห็นถึงความไม่เต็มใจของหลายประเทศที่จะใช้ระบบคลาวด์และ AI ของสหรัฐฯ เนื่องจากข้อกังวลด้านความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า Naver อาจมองโลกในแง่ดีเกินไปเกี่ยวกับการขายระบบ AI ในต่างประเทศ เนื่องจากความล้มเหลวครั้งก่อนในการนำเสิร์ชเอ็นจิ้นไปใช้ในต่างประเทศ แม้ว่าบริษัทจะครองตลาดเกาหลีก็ตาม
“อัลกอริทึม AI ของ Naver นั้นไม่ได้มาตรฐานและได้รับการปรับแต่งมากเกินไปสำหรับบริการของเกาหลี ซึ่งไม่เหมือนกับของ Google ” Wi Jong-hyun ศาสตราจารย์ด้านธุรกิจที่ Chung-Ang University ในกรุงโซลกล่าว “การนำระบบไปใช้ในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และการปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละประเทศนั้นต้องใช้ทรัพยากรทางการเงินและทรัพยากรบุคคลมหาศาล ซึ่งฉันคิดว่า Naver ยังไม่พร้อมสำหรับสิ่งนี้” Naver กล่าวว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศของตนด้วย HyperClova X ซึ่งเป็นการอัปเกรดเป็น ChatGPT-like AI ที่มีอยู่ซึ่งจะเปิดตัวในฤดูร้อนนี้ จะใช้เพื่อปรับปรุงบริการการค้นหาและการช็อปปิ้งของตนเอง ในขณะที่ให้บริการเวอร์ชันที่กำหนดเองสำหรับธุรกิจ “เราตามหลัง ChatGPT ของ OpenAI แปดเดือนในแง่ของเทคโนโลยี แต่เราดีกว่า ChatGPT มากในแง่ของบริการของเกาหลี” ซุงกล่าว “เรามุ่งความสนใจไปที่เกาหลีและญี่ปุ่นอย่างชัดเจนในตอนนี้ แต่เรายังมองหาตลาดต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นจะเป็นกุญแจสำคัญในการแข่งขัน AI” เขากล่าวเสริม
เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่เครื่องมือค้นหาของ Google ไม่สามารถครองตำแหน่งผู้นำได้ Naver มีส่วนแบ่งการตลาด 61 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ Google ที่มีส่วนแบ่งเพียง 29 เปอร์เซ็นต์ ตามข้อมูลของ Statista
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้บริษัทมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นในบริการ AI ภาษาเกาหลี โดย Google เลือกภาษาเกาหลีและญี่ปุ่นเป็นบริการภาษาต่างประเทศแรกสำหรับ Bard แชทบอทที่ใช้ AI “ตอนนี้ เรากำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่ใหญ่กว่าในตลาดหลักของเรา กับ Bard ของ Google” Sung ยอมรับ บริษัทสัญชาติเกาหลีมีหน่วยธุรกิจที่ให้ผลกำไรอื่นๆ เช่น แอปบริการและส่งข้อความ LINE และดำเนินการแพลตฟอร์มความบันเทิงยอดนิยมสำหรับเว็บตูนและแฟนด้อมเคป๊อป เป็นแนวหน้าในความพยายามของเกาหลีใต้ในการพัฒนาระบบนิเวศ AI ด้วยโมเดล HyperClova AI ที่พัฒนาขึ้นในปี 2564 ถูกนำไปใช้กับบริการต่างๆ ตั้งแต่ปีที่แล้ว Naver ยังได้ร่วมมือกับ Samsung Electronics เพื่อพัฒนาชิปที่ปรับแต่งมาสำหรับ AI โดยรัฐบาลเกาหลีกระตือรือร้นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการเติบโตต่อไปของประเทศ โดยอาศัยความแข็งแกร่งของเซมิคอนดักเตอร์และโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี