ประธานาธิบดีกล่าวว่าภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศกำลังเพิ่มขึ้นและกระตุ้นให้มีการกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์และความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น
President says national security threats are increasing and urged greater oversight of artificial intelligence and data security
Xi Jinping ประธานาธิบดีของจีนเรียกร้องให้มีการควบคุม AI ของรัฐมากขึ้นเพื่อรับมือ AI ที่เปรียบเหมือน ‘พายุที่อันตราย’
สี จิ้นผิง ผู้นำจีนและเจ้าหน้าที่ระดับสูงเรียกร้องให้รัฐกำกับดูแลปัญญาประดิษฐ์ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานเพื่อรับมือ AI ที่เปรียบเหมือน “พายุที่อันตราย” ซึ่งประเทศกำลังจะเผชิญหน้า สื่อทางการจีนรายงาน
ประธานาธิบดีและเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์คนอื่น ๆ เห็นพ้องกันในที่ประชุมของคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติ ที่จะ “ปรับปรุงการกำกับดูแลความปลอดภัยของข้อมูลเครือข่ายและปัญญาประดิษฐ์”
“เราต้องเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดและสถานการณ์รุนแรง และเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการทดสอบครั้งสำคัญของ AI ที่เปรียบเสมือนพายุที่รุนแรง คลื่นน้ำที่แปรปรวน และแม้แต่พายุที่อันตราย” รายงานการประชุมจากสำนักข่าวซินหัว ระบุ
ประธานาธิบดีสี กล่าวว่า “ความซับซ้อนและความรุนแรงของปัญหาความมั่นคงแห่งชาติที่ประเทศของเราเผชิญนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก”
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จีนได้ยกระดับการรณรงค์ในวงกว้างเพื่อกำจัดภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ การจำกัดการเข้าถึงข้อมูล การจู่โจมจากบริษัทที่ปรึกษาต่างชาติ และการเสริมสร้างกฎหมายต่อต้านการจารกรรม
นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการเพื่อเสริมสร้างการควบคุมของรัฐต่อปัญญาประดิษฐ์ โดยร่างกฎหมายที่เปิดเผยเมื่อเดือนที่แล้วกำหนดให้ผลิตภัณฑ์ AI ทั้งหมดต้องผ่านการประเมินความปลอดภัยก่อนเผยแพร่
ผลิตภัณฑ์ AI จะต้องสะท้อนถึง “ค่านิยมหลักของสังคมนิยม” ตามที่ร่างกฎหมายระบุไว้ และต้องไม่มี “เนื้อหาเกี่ยวกับการโค่นล้มอำนาจรัฐ”
ปักกิ่งกล่าวว่าภาพและเสียงที่สร้างจาก AI ซึ่งสามารถดูเหมือนจริงได้อย่างน่าทึ่งนั้นยังนำเสนอ “อันตรายต่อความมั่นคงของชาติและเสถียรภาพทางสังคม”
ประเทศจีนได้ประกาศแผนในอนาคตที่ทะเยอทะยาน เพื่อก้าวเป็นผู้นำระดับโลกด้าน AI ภายในปี 2573 กลุ่มที่ปรึกษา McKinsey ประมาณการว่าภาคส่วนนี้จะสามารถเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของจีนได้ประมาณ 600 พันล้านดอลลาร์ต่อปี