Struggling Meta showcases new AI tools at company meeting

พนักงานของ Meta จะได้ทดลองใช้งานแชทบอทที่คล้ายกับ ChatGPT ที่ออกแบบสำหรับ Messenger และ WhatsApp

Employees get preview of chatbots similar to ChatGPT for Messenger and WhatsApp

Meta กำลังพัฒนาเครื่องมือ Generative AI ใหม่ ใน Facebook messenger, WhatsApp และ Instagram

พนักงานของ Meta จะได้ทดลองใช้งานแชทบอทที่คล้ายกับ ChatGPT ที่ออกแบบสำหรับ Messenger และ WhatsApp

Meta เจ้าของ Facebook ได้ประกาศเครื่องมือใหม่ที่เน้นปัญญาประดิษฐ์ ในการประชุมภายในบริษัทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และสรุปแผนหลังจากประสบปัญหาทางการเงินมาหลายเดือน

บริษัทยืนยันรายงานของ New York Times ว่าพนักงานได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่กำลังสร้าง รวมถึงแชทบ็อตที่คล้ายกับ ChatGPT ที่วางแผนไว้สำหรับ Messenger และ WhatsApp ที่สามารถสนทนาปรับเปลี่ยนตามผู้ใช้ที่แตกต่างกันได้

การประชุมทั้งหมดซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทใน Menlo Park และถูกสตรีมไปยังสำนักงานทั่วโลก รวมถึงความเห็นจากประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แอนดรูว์ บอสเวิร์ธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ คริส ค็อกซ์ และผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก

Meta ยังเปิดเผยฟีเจอร์ใหม่ของ Instagram ที่สามารถแก้ไขรูปภาพของผู้ใช้ผ่าน text prompts และฟีเจอร์ที่สามารถใช้ text prompts สร้างสติกเกอร์อีโมจิสำหรับบริการส่งข้อความ

การประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากหลายปีที่ยากลำบากสำหรับ Meta ซึ่งในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาได้เลิกจ้างคนงานหลายหมื่นคน และหุ้นของบริษัทมีมูลค่าหายไป 80 พันล้านดอลลาร์ ในชั่วข้ามคืนในปี 2565 หลังจากรายงานผลประกอบการที่น่าผิดหวัง บริษัทได้เผชิญหน้ากับ identity crisis หลังจากเปลี่ยนชื่อจาก Facebook เป็น Meta และเทหน้าตัก วางเป้าหมายของบริษัท เพื่อเปลี่ยนธุรกิจหลักจากโซเชียลมีเดียไปสู่ ​​metaverse ซึ่งเป็นโครงการเสมือนจริงของบริษัท

ในขณะที่ Meta ยังคงต่อสู้ดิ้นรน โดยทุ่มเทมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อพัฒนา metaverse คู่แข่งอย่าง Google, Microsoft และ Snapchat ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม หลังจากประกาศเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Generative AI ทำให้บริษัท Meta จำเป็นต้องหันมาแข่งขันด้วย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

Meta ยังไม่ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ Generative AI ที่ตอบสนองผู้บริโภค แม้ว่าจะประกาศเมื่อเดือนที่แล้วว่ากำลังทำงานร่วมกับผู้โฆษณากลุ่มเล็ก ๆ เพื่อทดสอบเครื่องมือที่ใช้ AI เพื่อสร้างแบ็คกราวด์ และก๊อบปี้ไรเตอร์รูปแบบต่างๆ สำหรับแคมเปญโฆษณา

Paul Barrett รองผู้อำนวยการ Stern Center for Business and Human Rights ของมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก กล่าวว่า “เป็นการยากที่จะมองว่าสถานการณ์ของ Meta เป็นอย่างอื่นนอกจากการแย่งชิงอย่างสิ้นหวังเพื่อไล่ตามคู่แข่งในหลาย ๆ ด้าน”

บริษัทได้จัดระเบียบแผนก AI ใหม่และใช้จ่ายอย่างหนักเพื่อทำให้โครงสร้างพื้นฐานเป็นรูปเป็นร่าง หลังจากพิจารณาเมื่อต้นปีที่แล้วว่าขาดความสามารถด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อรองรับความต้องการผลิตภัณฑ์ AI

Zuckerberg บอกกับพนักงานในเซสชั่นเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ความก้าวหน้าของ Generative AI ในปีที่แล้ว ทำให้บริษัทสามารถสร้างเทคโนโลยี “ลงในผลิตภัณฑ์ของเราทุกชิ้น”

นอกจากเครื่องมือสำหรับผู้บริโภคแล้ว ผู้บริหารในที่ประชุมยังประกาศตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับพนักงานที่เรียกว่า Metamate ซึ่งสามารถตอบคำถามและปฏิบัติงานตามข้อมูลที่รวบรวมจากระบบภายในบริษัท

เครื่องมือจำนวนมากที่พัฒนาโดย Meta จะสร้างขึ้นจากโมเดลโอเพ่นซอร์ส ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีอื่นๆ ของตนเองได้ – นักวิจารณ์ และคู่แข่งต่างวิพากษ์วิจารณ์ จับผิดว่าเครื่องมือ Generative AI ของ Meta จะกระจายข้อมูลที่ผิดและคำพูดแสดงความเกลียดชังในวงกว้าง

Ari Lightman ศาสตราจารย์ด้านสื่อดิจิทัลแห่ง Heinz College แห่งมหาวิทยาลัย Carnegie Mellon กล่าวว่า “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยังไง ผมคิดว่าข้อมูลจำนวนมากใน Facebook มีเจตนาร้าย” “เราต้องการนโยบาย ระเบียบปฏิบัติ และระเบียบปฏิบัติ ดังนั้นเราจึงไม่เร่งรีบในสิ่งที่อาจเป็นอันตรายต่อสังคมในอนาคต”

ตามรายงานของ New York Times ในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี Zuckerberg ได้กล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับแนวทางโอเพ่นซอร์สของ Meta สำหรับ AI โดยกล่าวว่า “การเข้าถึงเทคโนโลยีได้อย่างเท่าเทียมนั้นมีค่ามากมาย” ตามรายงานระบุว่าเขาหวังว่าในอนาคตผู้ใช้จะสามารถสร้างโปรแกรม AI ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยเฟรมเวิร์กจากบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่เพียงไม่กี่แห่ง

แม้จะมีการโฟกัสใหม่ไปที่ AI แต่ New York Times รายงานว่า Zuckerberg ระบุว่าบริษัทจะไม่ละทิ้งแผนสำหรับ metaverse โดยสะท้อนถึงข้อความในอดีตที่เขาเคยกล่าวไว้ว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้เพื่อขยายโลกเสมือนจริงได้

“เรามุ่งเน้นไปที่ทั้ง AI และ metaverse มาหลายปีแล้ว และเราจะยังคงมุ่งเน้นไปที่ทั้งสองอย่างต่อไป” Zuckerberg กล่าวในการรายงานผลประกอบการประจำไตรมาสล่าสุดของบริษัท

view original *