เช่นเดียวกับ MusicLM ของ Google MusicGen สามารถเปลี่ยน text prompt ข้อความอธิบายเป็นคลิปเพลงสั้นๆ Meta ได้เปิดตัว MusicGen ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างเพลงใหม่ที่สามารถเปลี่ยน text prompt เป็นการบันทึกเสียงโดยใช้ AI
Like Google’s MusicLM, MusicGen can turn a descriptive text prompt into short clips of music.
Meta has unveiled MusicGen, a new music-generating tool that can turn text prompts into audio recordings using AI.
เครื่องมือเพลง Meta AI ใหม่ได้รับการฝึกฝนใน ‘เพลงที่มีลิขสิทธิ์’ 10,000 ชั่วโมง
Meta ได้เปิดตัว MusicGen ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างเพลงใหม่ที่สามารถเปลี่ยน text prompt เป็นการบันทึกเสียงโดยใช้ AI
MusicGen ได้รับการฝึกฝนโดยใช้เพลง 20,000 ชั่วโมง ตามข้อมูลของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี รวมถึงเพลงที่มีลิขสิทธิ์ “คุณภาพสูง” 10,000 ชั่วโมง และเพลงบรรเลง 390,000 เพลง
จากข้อมูลของ Meta เพลงทั้งหมดที่ MusicGen ได้รับการฝึกฝนนั้น “อยู่ภายใต้ข้อตกลงทางกฎหมายกับผู้ถือสิทธิ์” แต่แหล่งที่มาเหล่านั้นไม่ใช่ยักษ์ใหญ่ในวงการเพลงอย่าง Universal Music Group หรือศิลปินอย่าง Taylor Swift ชุดการฝึกอบรมมาจากmedia libraries เช่น ShutterStock และ Pond5
Meta ยอมรับว่า “ดาต้าเซ็ตที่เราใช้อาจขาดความหลากหลาย ซึ่งมีเพลงสไตล์ตะวันตกในสัดส่วนที่มากกว่า”
การใช้พรอมต์ (prompts) เช่น “เพลงป็อปแดนซ์ที่มีท่วงทำนองที่ติดหู เครื่องเคาะแบบเขตร้อน และจังหวะที่สนุกสนาน เหมาะสำหรับชายหาด” หรือ “เพลงอะคูสติกโฟล์คที่จะเล่นระหว่างการเดินทางบนท้องถนน การประสานเสียงด้วยฟลุตกีตาร์” MusicGen สามารถสร้างคลิปเพลงสั้นๆ ได้ นอกจากนี้ยังสามารถอ้างอิงถึงยุคหรือเพลงที่เฉพาะเจาะจง ที่ต้องการได้
Meta ยังยืนยันว่าสามารถสร้างแทร็กที่ยาวขึ้นได้ผ่าน MusicGen ดังนั้นผู้สร้างจะสามารถใช้แทร็กเพลงเริ่มต้นเป็นจุดอ้างอิงได้ MusicGen เปิดตัวผ่าน Github ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีการสาธิตให้ลองผ่าน Hugging Face
นักวิจัยยังได้เผยแพร่เอกสารสรุปวิธีที่พวกเขาฝึกฝน MusicGen และ “ความท้าทายทางจริยธรรม” ที่ “large scale generative models” สร้างขึ้น
นักวิจัยของ Meta กล่าวว่า “Generative models อาจเป็นการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรมสำหรับศิลปิน ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังเปิดกว้างให้ถกเถียงกัน” “Open research ระบบแบบเปิดสามารถรับประกันได้ว่าทุกคนสามารถเข้าถึงโมเดลเหล่านี้ได้อย่างเท่าเทียมกัน
“ด้วยการพัฒนาการควบคุมขั้นสูง เช่น การปรับเสียงเมโลดี้ที่เราแนะนำ เราหวังว่าโมเดลดังกล่าวจะมีประโยชน์ทั้งกับมือสมัครเล่นและมืออาชีพ” บริษัทกล่าวต่อ
การใช้ Generative AI กลายเป็นประเด็นสำคัญ และข้อถกเถียง ตั้งแต่ Grimes ที่สวนกระแส ไม่ต่อต้าน แต่ขอแบ่งค่าลิขสิทธิ์ 50% สำหรับเพลงที่สร้างโดย AI ซึ่งใช้เสียงของเธอ ไปจนถึงศิลปินยอดนิยมอย่าง Oasis และ The Weeknd ที่ Generative AI ใช้ต้นฉบับผลงานของพวกเขามาเป็นดาต้าเซ็ต ซึ่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับลิขสิทธิ์เพลง และการเป็นเจ้าของเนื้อหา หรือตำนานอย่าง Paul McCartney ที่กำลังใช้ AI เพื่อสร้างเพลงของ Beatles ที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อเดือนที่แล้ว MusicLM เครื่องมือ “experimental AI” ของ Google เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปได้ทดลอง หลังจากเปิดตัวในเดือนมกราคม เครื่องมือนี้สามารถสร้างเพลงจาก text prompts หรือเพียงแค่ฮัมเพลง จากนั้นผู้ใช้จะลองฟังเพลงที่สร้างขึ้น สองเวอร์ชันที่แตกต่างกัน แนวคิดคือผู้ใช้สามารถตัดสินใจว่า ชอบแบบใด ซึ่งจะช่วย “ปรับปรุง” โมเดล AI
จากข้อมูลของ Google MusicLM ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับคลิปเสียง 5 ล้านคลิป ซึ่งคิดเป็น 280,000 ชั่วโมงของเพลง
“เราเชื่อว่านวัตกรรมที่มีความรับผิดชอบไม่ได้เกิดขึ้นอย่างโดดเดี่ยว” Google กล่าวในบล็อกโพสต์ก่อนที่จะยืนยันว่าพวกเขากำลัง “ทำงานร่วมกับนักดนตรีและจัดเวิร์กช็อปเพื่อดูว่าเทคโนโลยีนี้สามารถส่งเสริมกระบวนการสร้างสรรค์ได้อย่างไร”