สิงคโปร์ไม่เร่งรีบในการกำหนดกฎระเบียบด้าน AI แม้ว่าจะมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง เพื่อจัดการกับความเสี่ยง
“ขณะนี้เราไม่ได้มองหาการควบคุม AI” Lee Wan Sie ผู้อำนวยการ trusted AI and data ของ Singapore’s Infocomm Media Development Authority ประเทศสิงคโปร์ กล่าวกับ CNBC รัฐบาลสิงคโปร์กำลังพยายามส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ มีการเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ร่วมมือพัฒนาชุดเครื่องมือ AI testing toolkit ชุดแรกของโลก ซึ่งเรียกว่า AI Verify
Singapore is not rushing to set AI regulation even as there are repeated calls for government interventions to address its risks.
“We are currently not looking at regulating AI,” Lee Wan Sie, director for trusted AI and data at Singapore’s Infocomm Media Development Authority, told CNBC.
The Singapore government is making efforts to promote the responsible use of AI.
It is calling for companies to collaborate in the world’s first AI testing toolkit — called AI Verify.
Singapore’s Marina Bay waterfront.
สิงคโปร์ยังไม่รีบออกกฎหมาย A.I. จับมือบริษัทชั้นนำพัฒนา AI testing toolkit ชุดแรกของโลก
ในขณะที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่าปัญญาประดิษฐ์ก่อให้เกิดความเสี่ยงหรืออันตรายหรือไม่ และจำเป็นต้องควบคุมหรือไม่ สิงคโปร์จึงใช้แนวทางเฝ้าติดตามสถานการณ์ wait-and-see approach
“ขณะนี้ เราไม่ได้มุ่งเป้าไปที่การควบคุม AI” Lee Wan Sie ผู้อำนวยการ trusted AI and data ของ Singapore’s Infocomm Media Development Authority (IMDA) ประเทศสิงคโปร์ กล่าวกับ CNBC
IMDAหน่วยงานส่งเสริมและควบคุมภาคการสื่อสารและสื่อของสิงคโปร์ โดยรัฐบาลสิงคโปร์กำลังพยายามส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบ
มีการเรียกร้องให้บริษัทต่างๆ ร่วมมือกันร่วมมือพัฒนาชุดเครื่องมือ AI testing toolkit ชุดแรกของโลก ซึ่งเรียกว่า AI Verify ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการทดสอบทางเทคนิค กับโมเดล AI และบันทึกการตรวจสอบกระบวนการได้
AI Verify เปิดตัวเป็นโครงการนำร่องในปี 2565 บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี IBM และสิงคโปร์แอร์ไลน์ ได้เริ่มการทดสอบนำร่องเป็นส่วนหนึ่งของโครงการแล้ว
เรียกร้องให้มีการควบคุม
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา AI ก้าวมามีบทบาทอย่างสำคัญ หลังจากเปิดตัวแชทบอท ChatGPT แล้วกลายเป็นไวรัล เนื่องจากความสามารถในการโต้ตอบที่เหมือนมนุษย์ต่อ prompts ของผู้ใช้ มีผู้ใช้งานถึง 100 ล้านคนในเวลาเพียงสองเดือนหลังจากเปิดตัว
อย่างไรก็ตาม มีการเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแทรกแซง เพื่อจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจาก AI
ผู้นำด้านเทคโนโลยีเช่น Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI และ Elon Musk ซีอีโอของ Tesla ได้เตือนเกี่ยวกับอันตรายของเทคโนโลยี
“ในขั้นตอนนี้ ค่อนข้างชัดเจนว่า เราต้องการเรียนรู้จากอุตสาหกรรม เราจะเรียนรู้วิธีการใช้ AI ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจำเป็นต้องดำเนินการมากกว่านี้จากหน่วยงานกำกับดูแลหรือไม่” Lee กล่าว และเสริมว่ากฎระเบียบอาจถูกนำมาใช้ในภายหลัง
“เราตระหนักดีว่าในฐานะประเทศเล็กๆ ในฐานะรัฐบาล เราอาจไม่มีคำตอบทั้งหมดสำหรับเรื่องนี้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับภาคอุตสาหกรรม องค์กรวิจัย และรัฐบาลอื่นๆ” Lee กล่าว
Haniyeh Mahmoudian นักจริยธรรมด้าน AI ของ DataRobot และสมาชิกที่ปรึกษาของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้าน AI แห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวว่า “สิ่งนี้เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง” ทั้งต่อธุรกิจและผู้กำหนดนโยบาย
“อุตสาหกรรมมีการลงมือปฏิบัติจริงมากขึ้น เมื่อพูดถึง AI บางครั้ง เมื่อพูดถึงกฎระเบียบ คุณเห็นช่องว่างระหว่างสิ่งที่ผู้กำหนดนโยบายกำลังคิดเกี่ยวกับ AI กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจ” Mahmoudian กล่าว
ดังนั้นการมีความร่วมมือสร้างชุดเครื่องมือ AI testing toolkit ชุดแรกของโลก ซึ่งเรียกว่า AI Verify จึงมีข้อมูลจากอุตสาหกรรม ทำให้ได้ประโยชน์ทุกๆฝ่าย
Google,ไมโครซอฟท์ และไอบีเอ็ม เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่ได้เข้าร่วม AI Verify Foundation ซึ่งเป็นชุมชนโอเพ่นซอร์สระดับโลกที่จัดตั้งขึ้นเพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรฐาน AI และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด ตลอดจนร่วมมือกันในการควบคุม AI
“พวกเราที่ Microsoft ขอปรบมือให้กับความเป็นผู้นำของรัฐบาลสิงคโปร์ในด้านนี้” Brad Smith ประธานและรองประธานของ Microsoft กล่าวในการแถลงข่าว
“ด้วยการสร้างทรัพยากรที่ใช้งานได้จริง เช่น กรอบการทดสอบการกำกับดูแล AI และชุดเครื่องมือ สิงคโปร์กำลังช่วยองค์กรต่าง ๆ สร้างกระบวนการกำกับดูแลและการทดสอบที่แข็งแกร่ง” Smith กล่าว
แนวทางการทำงานร่วมกัน
ในการประชุมสุดยอด Asia Tech x Singapore ในเดือนมิถุนายน Josephine Teo รัฐมนตรีกระทรวงการสื่อสารและสารสนเทศของสิงคโปร์ตั้งข้อสังเกตว่าแม้รัฐบาลจะตระหนักถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจาก AI แต่ก็ไม่สามารถส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีจริยธรรมได้แต่เพียงฝ่ายเดียว
“ภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญสามารถมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายเหล่านี้กับเรา” เธอกล่าว
แม้ว่าจะมี “ความกลัวและความกังวลอย่างแท้จริงเกี่ยวกับการพัฒนาของ AI” เราจะต้องผลักดัน AI ไปสู่การใช้งานที่เป็นประโยชน์และห่างไกลจากสิ่งที่ไม่ดีอย่างแข็งขัน Teo กล่าว “นี่คือหัวใจสำคัญของความคิดของสิงคโปร์เกี่ยวกับ AI”
ในขณะเดียวกัน บางประเทศก็ปราบปราม AI อย่างรวดเร็ว
สหภาพยุโรปกลายเป็นประเทศแรกที่กำหนดมาตรฐานขั้นต่ำด้วยกฎหมายปัญญาประดิษฐ์ สมาชิกรัฐสภายุโรปตกลงที่จะนำเครื่องมือสร้าง AI เช่น ChatGPT ภายใต้ข้อจำกัดที่มากขึ้นในวันพุธ
ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ของฝรั่งเศสและรัฐมนตรีของเขาได้แสดงความจำเป็นในการควบคุม AI “ผมคิดว่าเราต้องการกฎข้อบังคับ และผู้เล่นทุกคน แม้แต่ผู้เล่นในสหรัฐฯ ก็เห็นด้วยกับสิ่งนั้น” Macron กล่าวกับ CNBC เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จีนได้พัฒนาร่างกฎที่ออกแบบมาเพื่อจัดการวิธีที่บริษัทต่างๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ generative AI เช่น ChatGPT
นวัตกรรมในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย
สิงคโปร์สามารถทำหน้าที่เป็น “ห้องทดลอง” ในภูมิภาคสำหรับการอนุญาตให้มีนวัตกรรมแต่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย Stella Cramer หัวหน้ากลุ่มเทคโนโลยีของบริษัทกฎหมายระหว่างประเทศ Clifford Chance ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าว
Clifford Chance ทำงานร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับแนวทางและกรอบการทำงานในตลาดต่างๆ
“มีเพียงแนวทางที่สอดคล้องกันเท่านั้นที่เราเห็นเกี่ยวกับการเปิดกว้างและการทำงานร่วมกัน สิงคโปร์ถูกมองว่าเป็นเขตอำนาจศาลที่เป็นสถานที่ปลอดภัยในการมาทดสอบและเปิดตัวเทคโนโลยีของคุณโดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุม” แครมเมอร์กล่าว
นครรัฐแห่งนี้ได้เปิดตัวโครงการนำร่องหลายโครงการ เช่น FinTech Regulatory Sandbox หรือ Healthtech Sandbox เพื่อให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมได้ทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนในสภาพแวดล้อมจริงก่อนออกสู่ตลาด
“เฟรมเวิร์กที่มีโครงสร้างและชุดเครื่องมือทดสอบเหล่านี้จะช่วยชี้นำนโยบายการกำกับดูแล AI เพื่อส่งเสริม AI ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้สำหรับธุรกิจ” Cramer กล่าว
“AI Verify อาจเป็นประโยชน์สำหรับการสาธิตการปฏิบัติตามข้อกำหนดบางประการ” Lee จาก IMDA กล่าว “ในตอนท้าย ในฐานะผู้ควบคุม หากต้องการบังคับใช้ [กฎระเบียบ] ฉันต้องรู้ว่าต้องทำอย่างไร”