Bitcoin คือทุกสิ่งที่ AI ต้องการเพื่อทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง (stay alive) เขียนโดยอดีต CEO ของ Bitmex: Permissionless, rare, and always-on.
Bitcoin is everything AI needs to stay alive, writes the former Bitmex CEO: Permissionless, scarce, and always-on.
Arthur Hayes ทำนาย AI จะใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินหลัก
ปัญญาประดิษฐ์ต้องการสกุลเงินเพื่อดำเนินการในลักษณะเดียวกับที่มนุษยชาติทำหรือไม่? Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX กล่าวว่าใช่—และสกุลเงินนั้นจะเป็น Bitcoin (BTC)
ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อวันพฤหัสบดี Hayes ได้อธิบายว่าเหตุใด Bitcoin จะถูก “เลือกโดย AI” ให้เป็นเงินที่สมเหตุสมผลที่สุด ในการประมวลผล economic decisions ของพวกเขา และเป็นวิธีการชำระเงินที่ดีที่สุดในการดำเนินการของ AI
สำหรับผู้เริ่มต้น AI จำเป็นต้องมีระบบการชำระเงินที่ “พร้อมใช้งานตลอดเวลาแบบดิจิทัล และระบบอัตโนมัติทั้งหมด” นั่นเป็นเพราะต้องสามารถชำระค่าใช้จ่าย “ปัจจัยสำคัญต่อ AI” สองรูปแบบ นั่นคือข้อมูล และพลังประมวลผล เพื่อทำให้ “AI ทำงานได้อย่างต่อเนื่อง”
จากข้อมูลของ Hayes ระบบบอะนาล็อกที่ธนาคารใช้ มัน “ล้าหลัง” ไม่สามารถให้บริการแบบนี้ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน แต่ระบบที่ใช้บล็อกเชนสามารถทำให้บริการเช่นนี้เกิดขึ้นได้
“ด้วยการใช้ระบบการชำระเงินแบบบล็อกเชน [AI] … ยังสามารถรับการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในมูลค่าน้อยๆ หากจำเป็น” เขากล่าวเสริม
BitMEX co-founder and ex-CEO Arthur Hayes
Hayes อธิบายว่า การชำระเงินของ AI จะต้องไม่มีกลไกการอนุญาตหรือกำหนดสิทธิในการเข้าถึง (necessarily permissionless) ทนทานต่อการเซ็นเซอร์ (censorship-resistant) และต้องมีกฎที่ “ชัดเจนและโปร่งใส” ตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งนี้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการปรับรูปแบบแพลตฟอร์ม (risk of deplatforming) “สูงและไม่พึงปรารถนา” สำหรับหุ่นยนต์ที่ไม่เข้าใจกฎหมายมนุษย์อย่างแท้จริง หรือกฎที่ “คลุมเครือ และจงใจทำให้เข้าใจได้ยาก” ของการเซ็นเซอร์ในระบบที่ธนาคารใช้กันอยู่
แม้ว่าบล็อกเชนทั้งหมดไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาต หรือทนต่อการเซ็นเซอร์ แต่ Bitcoin ก็เหมาะสมกับ AI ที่สุดอย่างแน่นอน
“Bitcoin ต่อต้านการเซ็นเซอร์ เพราะวิธีเดียวที่กฎจะเปลี่ยนแปลงได้คือ public proposal จะต้องแสดงต่อเครือข่ายทั้งหมดและตัดสินใจโดยเสียงส่วนใหญ่” Hayes เขียน “ไม่มีซิงกูลาร์เอนทิตี (singular entity) ใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงกฎของเครือข่ายได้ตามอำเภอใจ”
ในขณะที่สกุลเงิน fiat และทองคำสามารถหมุนเวียนในทางเทคนิคบนเครือข่ายดิจิทัลแบบกระจายศูนย์โดยใช้ Stablecoins เงินสำรองที่สนับสนุนโทเค็นดังกล่าวจะต้องถูกเก็บไว้กับหน่วยงานส่วนกลาง ด้วยเหตุนี้ Stablecoins จึงถูกแช่แข็งและเซ็นเซอร์โดยผู้ออก เช่นเมื่อ Circle ระงับ USDC ที่เชื่อมโยงกับ Tornado Cash หลังจากกระทรวงการคลังคว่ำบาตรโปรโตคอลความเป็นส่วนตัวเมื่อปีที่แล้ว
สุดท้าย อดีต CEO แย้งว่า Bitcoin เหมาะสมที่สุดในการรักษามูลค่าเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเทียบกับ “ปัจจัย” ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าของ AI มูลค่า Bitcoin นี้ไม่เพียงถูกจำกัดด้วยโปรแกรมไว้ที่ 21 ล้านเหรียญเท่านั้น แต่ยังขุดได้โดยตรงโดยใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย ซึ่งทำให้ “กำหนดมูลค่าของ Bitcoin มีเสถียรภาพเมื่อเวลาผ่านไป”
บางคนแย้งว่า Ethereum (ETH) สามารถทำเงินได้ดีกว่า Bitcoin เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของอุปทานที่ลดลงหลังจากการควบรวมกิจการ อย่างไรก็ตาม หลังจากการอัปเกรดไม่นาน Hayes อ้างว่า ETH ไม่ผ่านการรับรองเนื่องจากมีแอปพลิเคชันอื่นๆ ซึ่งแตกต่างจาก Bitcoin และสกุลเงิน fiat ซึ่งเป็น “แค่เงิน”
“นั่นคือสิ่งที่ทำให้ [Bitcoin] สกุลเงินที่ดี เพราะมูลค่าของมันไม่ปะปนไปกับประโยชน์ใช้สอยกับสิ่งของอื่นๆ” เขากล่าว
