ในงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นล่าสุด ยักษ์ใหญ่ด้านการค้นหาก็ไม่เสียโอกาสที่จะบอกเราเกี่ยวกับฟีเจอร์สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย AI ทั้งหมด แต่ใครล่ะที่พยายามสร้างความประทับใจ?
At the launch event for its latest flagship smartphones, the search giant wasted no opportunity to tell us about all its AI-powered smartphone features. But who is it trying to impress?
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Pixel 8 ของ Google ถือเป็นขบวนพาเหรดของผลิตภัณฑ์ AI
ผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนล่าสุดของ Google เต็มไปด้วยเทคโนโลยี AI มี Magic Editor ซึ่งเป็นเครื่องมือแก้ไขภาพที่ขับเคลื่อนโดย generative AI มีการตรวจจับการสนทนาซึ่งเป็น audio transparency feature ขับเคลื่อนโดย AI; มีอัลกอริธึมวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งใช่ขับเคลื่อนโดย AI เช่นกัน
Google อัพเดตระบบปฏิบัติการเจ็ดปี? สิ่งที่ได้คือฟีเจอร์ AI เพิ่มเติมจาก Google คุณสมบัติการถ่ายภาพใหม่? เอไอทั้งหมด โปรเซสเซอร์เทนเซอร์? ที่ออกแบบมาสำหรับ AI “เรามุ่งเน้นที่การทำให้ AI มีประโยชน์มากขึ้นสำหรับทุกคน ในลักษณะที่ท้าทาย และมีความรับผิดชอบ” Rick Osterloh หัวหน้าฝ่ายฮาร์ดแวร์ของ Google ซึ่งตลอดการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้เวลานานหนึ่งชั่วโมง Google เน้นนำเสนอ AI ในแต่ละฟีเจอร์มากกว่า 50 ครั้ง
ในช่วงต้นปี 2019 AI ถูกใช้เป็นคำขายทุกอย่างตั้งแต่แปรงสีฟันไปจนถึงทีวี แต่การนำเสนอล่าสุดของ Google แสดงให้เห็นว่า บริษัทมีจุดยืนเชิงรุกในฐานะผู้นำในด้าน AI เพื่อแข่งขันกับความสำเร็จในชั่วข้ามคืนของ ChatGPT ของ OpenAI และ Microsoft ที่ได้รวมเทคโนโลยี AI ใหม่เข้ากับผลิตภัณฑ์ของตน
Osterloh อธิบายว่า Google ให้ความสำคัญกับ AI มากเพียงใดในตอนนั้น “เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี้ ฉันเห็นคนสองสามคนที่เปิดตัว Pixel ครั้งแรกเมื่อเจ็ดปีที่แล้ว” Osterloh กล่าว โดยสังเกตว่าในตอนนั้น “อธิบายว่า Pixel ได้รับการออกแบบมาเพื่อนำฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์มารวมกัน โดยมี AI ที่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่เรียบง่าย รวดเร็ว และชาญฉลาด”
แต่เมื่อฉันกลับไปดูการนำสาธิตเปิดตัวผลิตภัณฑ์ 2016 Pixel รุ่นออริจินัล การบรรยาย 20 นาที ของ Google ฉันไม่เห็นใครพูดคำว่า “AI” บนเวทีจริงๆ แม้ว่าจะมีการสาธิตฟีเจอร์ควบคุมด้วยเสียงของ Google Assistant การบรรยายเกี่ยวกับการถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ และแม้แต่การอวดอ้างอย่างภาคภูมิใจว่าโทรศัพท์นี้ “สร้างขึ้นเพื่อความเป็นจริงเสมือนบนมือถือ” แต่ดูเหมือนจะไม่มีการกล่าวถึงปัญญาประดิษฐ์อย่างชัดเจน
Osterloh ไม่ได้โกหก เมื่อเขาบอกว่า Google 2016 Pixel รุ่นออริจินัล นั้นขับเคลื่อนด้วย AI แต่การเปรียบเทียบแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์และบริการของ Google แตกต่างกันอย่างไรในปี 2023 เทียบกับปี 2016 ในการเปิดตัว 2016 Pixel รุ่นออริจินัล ที่ Google ในปัจจุบันคงจะใช้คำว่า “AI” อย่างแน่นอน เช่นเดียวกับที่ Brian Rakowski ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กล่าวถึง “อัลกอริธึมซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่น่าทึ่งของกล้อง” แต่การนำเสนอในปี 2016 ของ Google ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการรับรู้เกี่ยวกับความสามารถด้านเทคนิคของบริษัท และกังวลมากขึ้นกับความหมายของคุณลักษณะเหล่านั้นสำหรับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ
เมื่อเปรียบเทียบกับการนำเสนอของ Apple ซึ่งบริษัทดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงการพูดคำว่า AI โดย Apple ยังคงเรียกเทคโนโลยีที่บริษัทอื่นๆ ส่วนใหญ่เรียกว่า AI แต่ Apple เลือกใช้คำว่า “machine learning”
โดยส่วนใหญ่แล้ว ฉันไม่คิดว่านี่เป็นปัญหาใหญ่ ใครจะสนใจว่าอัลกอริธึมอัตราการเต้นของหัวใจของ Pixel Watch 2 ทำงานอย่างไรตราบใดที่มันแม่นยำ และท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ของขั้นตอนการถ่ายภาพของ Pixel 8 จะต้องพูดเพื่อตัวมันเอง ไม่ว่า “AI” จะเข้ามาเกี่ยวข้องมากแค่ไหนก็ตาม
แต่ก็มีช่วงเวลาหนึ่งในการนำเสนอในสัปดาห์นี้เช่นกัน เมื่อฉันพบว่าตัวเองถามว่าเราต้องการฟีเจอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI บางอย่างที่ Google แสดงให้เห็นหรือไม่ ในระหว่างส่วนของผู้ช่วยเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย Fenerative AI ใหม่ของ Google Sissie Hsiao จาก Google แสดงให้เห็นว่า Assistant with Bard สามารถสร้างโพสต์บนโซเชียลมีเดียโดยอัตโนมัติ โดยสาธิตจากตัวอย่าง Baxter the dog
“Baxter the hilltop king!” Assistant with Bard drafted in response. “Look who’s on top of the world! #doglover #majestic #hikingdog.”
ในการสาธิต generative AI ได้แสดงความสามารถมากขึ้นในการจดจำและอธิบายภาพ
แค่คิดว่านี่เป็นคุณสมบัติสมาร์ทโฟนล้วนๆ เรามาถึงจุดที่สมาร์ทโฟนจะสร้างโพสต์โซเชียลมีเดียส่วนตัวให้เรา คุณสามารถใช้ให้สมาร์ทโฟนคิดแคปชั่น บรรยายภาพสำหรับภาพถ่าย ให้คุณได้ด้วย
คำถามที่ Google ต้องการคำตอบคือ “สมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย AI” สามารถดึงดูดลูกค้าได้ไหม ChatGPT ไม่ใช่ความสำเร็จในชั่วข้ามคืนและเห็นได้ชัดว่า ทุกคนรอว่า AI จะถูกพัฒนาเกี่ยวกับอะไรได้บ้าง
สิ่งใดที่ทำให้ Google มีความวิตกกังวลว่าจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ตกกระแส AI นั่นคือเมื่อ Microsoft ประกาศว่ากำลังรวม generative AI เข้ากับ Bing
Google สามารถเรียกตัวเองว่าบริษัท AI ได้ตามใจชอบ แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนก็อาจแค่ต้องการสมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ต่อพวกเขา ไม่ว่าจะใช้เทคโนโลยี AI หรือไม่